รางนำกระแสไฟ รถไฟฟ้าสีชมพูร่วง กระทบหุ้น STEC-BTS-RATCH

เมื่อเของเช้าวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา รางระบบไฟฟ้า ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู หลุดจากคานคอนกรีตโครงสร้างแล้วร่วงลงมา บริเวณปากเกร็ด อีกทั้งยังมีข่าวแผ่นเหล็ก D-Wall หล่นทับคนงานของโครงการสายสีม่วงใต้

กรณีรางนำกระแสไฟรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วง บล.บัวหลวงมองเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ จากความคาดหมายยกระดับความปลอดภัยเข้มข้นขึ้น เหตุการณ์นี้เป็นลบต่อผู้รับสัมปทานโครงการสายสีชมพู เช่น STEC, BTS และ RATCH) จาก Overhang ตามข่าว

บล.บัวหลวง แนะ wait-and-see การเก็งกำไรหุ้นชั่วคราวก่อน หากวันนี้ (25 ธ.ค.) ราคาหุ้นย่อตัว ก็ยังไม่แนะนำสวนทางทันที ให้รอดูการจัดการ และเรียกความเชื่อมั่น รวมทั้งมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมจบก่อน

รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นโครงการที่ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของกิจการร่วมค้า BSR (ระหว่าง BTS STEC RATCH) ได้รับสัมปทานเดินรถ ปัจจุบันอยู่ระหว่าง ช่วงทดลองเดินรถ และเดิมมีแผนจะ Commercial Run วันที่ 3 ม.ค. 2024

สำหรับประเด็นข่าวรางระบบไฟฟ้าสายสีชมพู เบื้องต้นจะมีประเด็นต้องพิจารณาและติดตาม ดังนี้

1. งานที่เสียหายคือ งานระบบรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (ไม่ใช่โครงสร้างโยธา)แม้งานจะเป็นเพียงบางส่วน แต่มองว่าทำให้ผู้ใช้กังวลต่อระบบฯเป็น Overhang ระยะหนึ่ง วานนี้(24 ธ.ค.) มีการสั่งปิดสายสีชมพูทั้งระบบ แต่คาดว่าระหว่างสัปดาห์ น่าจะกลับมาดำเนินการปกติ 21 สถานีที่ไม่มีปัญหา และปิดซ่อม 7 สถานี (จากทั้งหมด 28 สถานี)

2. การซ่อมแซมก.คมนาคม คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 7 วัน หากเป็นไปตามนั้น ยังทันกรอบเวลา Commercial Run อย่างไรก็ตาม ระหว่างสัปดาห์ ติดตามว่าจะมีการพิจารณาอีกทีว่าจะเลื่อน Commercial Run ออกไปหรือไม่

3.ในส่วนงานรับเหมาโยธาที่ STEC รับผิดชอบงานก่อสร้าง ไม่ได้มีปัญหาที่มีนัยสำคัญ

4. งานระบบไฟฟ้าที่เป็นปัญหานี้ เป็นงานของผู้รับเหมารายอื่น

5. คาดว่างานบางส่วนอาจมีการทำประกันความเสียหายไว้อยู่แล้ว ส่วนข่าวแผ่นเหล็กหล่นทับคนงานสายสีม่วงใต้โครงการดังกล่าวรับผิดชอบโดย UNIQ (บล.บัวหลวงไม่มี Coverage) ซึ่งถูกสั่งให้ระงับการก่อสร้างไปแล้ววานนี้ (24 ธ.ค.)

ราคาหุ้น วันที่ 25 ธ.ค. เมื่อเวลา 11.00 น. STEC  8.50 บาท (-0.58%), BTS 7.15 บาท (0.69%) RATCH 30.75 บาท (+0.82%)