M&A “ติดหล่ม” ในปี 2023 เหตุดอกเบี้ยสูงลิบ

ในปี 2023 กระแสการควบรวมกิจการ (M&A) ทั่วโลก ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและการชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการควบรวมกิจการ 

ข้อมูลล่าสุดจาก Dealogic แสดงให้เห็นว่า ในปี 2023 ปริมาณการทำ M&A ทั่วโลกลดลงถึง 18% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 

ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปริมาณการควบรวมกิจการลดลง 8% เป็น 1.42 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2023 ขณะที่ ปริมาณการทำควบรวมในยุโรปและเอเชียแปซิฟิกลดลงอย่างรวดเร็วขึ้นในอัตรา 32% และ 20% ตามลําดับ

อย่างไรก็ดี แม้ธุรกรรมการควบรวมกิจการจะลดลงในปีนี้ แต่ในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงาน การควบรวมกิจการยังคงเดินหน้าต่อ อย่างเช่น กรณีของ Exxon Mobil เข้าซื้อกิจการ Pioneer Natural Resources ด้วยวงเงินสูงถึง  60,000  ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือแม้แต่  Chevron เข้าซื้อกิจการ Hess Corp มูลค่า 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 2 ดีลถูกจัดอันดับให้เป็นข้อตกลงการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดสําหรับปี 2023 ด้วย

สัญญาณการฟื้นตัวของการควบรวมกิจการเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยปริมาณข้อตกลงเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสที่สี่ โดยส่วนใหญ่มาจากข้อตกลงด้านพลังงาน

ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าการเข้าซื้อกิจการในบริษัทที่มีสัญชาติต่างกันมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากกฎระเบียบของแต่ละประเทศที่เข้มงวด ทำให้ปริมาณข้อตกลงควบรวมกิจการข้ามพรมแดนทั่วโลกในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 844,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% จากปี 2022

เอริค รุตคอสเก้ หัวหน้าฝ่าย M&A ของ บริษัทหลักทรัพย์กุกเกนไฮม์ กล่าวว่า "ณ ปัจจุบัน จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตในหลายภาคส่วน

แต่สิ่งที่ถูกมองว่าจะเป็นอุปสรรคที่สำหรับการควบรวมกิจการในปี 2567 คือ ประเด็นด้านการเมืองทั่วโลก การเลือกตั้งในประเทศต่างๆ รวมถึงในสหรัฐอเมริกาและอินเดีย เนื่องจากบางบริษัทจะรอดูว่าทิศทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

จิม แลงสตัน หัวหน้าร่วมของ M&A ของสหรัฐฯ ที่สํานักงานกฎหมาย Cleary Gottlieb Steen & Hamilton กล่าวว่า "ตลาด M&A ได้เริ่มเร่งตัวขึ้น ทั้งในแง่ของระดับความเชื่อมั่น ตลอดจนจํานวนบริษัทที่อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อปิดดีลในอนาคต