03 มกราคม 2567
2,379
ยอดขาย Thai ESG Fund รวมกว่า 5.2 พันบ้านบาท SCBAM ได้มากสุด กว่า 1.127 พันล้านบาท
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ล่าสุด ที่รัฐบาลรีบเร่งออกให้ทันใช้ลดหย่อนภาษีปี 2566 กำหนดขายช่วง 8 - 28 ธ.ค. 66 มี 16 บลจ. เข้าร่วม และมีกองทุนให้เลือก 30 กองทุน
ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุน ThaiESG ได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี และสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่นับรวมกับวงเงิน 500,000 บาท จากกองทุนการออมเพื่อการเกษียณ ที่ประกอบด้วยกองทุน SSF, RMF, PVD, กบข., ประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ กอช.
โดยกองทุน Thai ESG ไม่มียอดซื้อขั้นต่ำ และไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องทุกปี เพียงแต่ต้องถือครอง 8 ปี แบบจากวันที่ซื้อ
มูลค่าสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนในกองทุน Thai ESG ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 จาก 16 บลจ. จำนวน 30 กองทุน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณกว่า 5.2 พันล้านบาท พลาดเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า แต่ด้วยระยะเวลาจำหน่ายอาจจะเป็นช่วงสั้น ถือว่าได้รับความสนใจจากประชาชนพอสมควร
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2567 กองทุน Thai ESG น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น มูลค่ากองทุนน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านบาทได้ และเป็นปีที่คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะสดใสมากขึ้นทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลง
5 อันดับบริษัทจัดการลงทุน ที่มียอดขายกองทุน Thai ESG มากที่สุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 66 มีดังนี้
อันดับ 1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ ออกจำนวน 6 กองทุน ยอดขายรวมอยู่ที่ 1,127 ล้านบาท
อันดับ 2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย ยอดขายรวมอยู่ที่ 1,122 ล้านบาท
อันดับ 3 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง ยอดขายรวมอยู่ที่ 817 ล้านบาท
อันดับ 4 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร ยอดขายรวม อยู่ที่ 570 ล้านบาท
อันดับ 5 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย มียอดขายรวมกว่า 551 ล้านบาท