19 มกราคม 2567
977
เศรษฐกิจอินเดียจ่อขึ้นแท่นอันดับ 3 ของโลก บลจ. กสิกร แนะเก็บเข้า Core Port 4%
บลจ.กสิกรไทย เผยเศรษฐกิจอินเดียจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯและจีน พร้อมเสิร์ฟ Share Class ใหม่ “กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า หรือ K-INDIA-A(A)”
เอาใจสายลงทุนเน้นสะสมผลตอบแทน เพื่อโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นในระยะยาว แนะนำลงทุนเป็น Core Portfolio ในสัดส่วนประมาณ 4% ของพอร์ตการลงทุน
นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย เผย S&P Global Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจระดับโลก คาดการณ์ว่าอินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจอินเดียจัดอยู่ในอันดับ 5 รองจากสหรัฐฯ จีน เยอรมณี และญี่ปุ่น
โดยปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอินเดียให้เติบโตขึ้น ได้แก่การที่อินเดียตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลกในสินค้าหลายอุตสาหกรรม (ข้อมูล ณ ธ.ค. 66)
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองเห็นโอกาสทำกำไรในตลาดหุ้นอินเดียและต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน จึงเพิ่ม Share Class ใหม่ ภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า หรือ K-INDIA-A(A) เพื่อให้ผู้ลงทุนสร้างโอกาสสะสมผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-INDIA-A(A) มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก Goldman Sachs India Equity Portfolio Class I Shares (Acc.) การันตีผลการดำเนินงานของกองทุนด้วย Morningstar Overall Rating 4 ดาว
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดี เติบโตสูง และเน้นเข้าซื้อหุ้นที่ราคาตลาดในปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น โดยแบ่งสัดส่วนลงทุนทั้งในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก 48% และหุ้นขนาดใหญ่ 47% ของพอร์ตการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนมากกว่าดัชนีชี้วัดในระยะยาว
▪️ ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจอินเดียเติบโตได้ดี
ภาคการส่งออก ภาคบริการ และความต้องการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ
การนำเทคโนโลยีดิจิตัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Productivity)
การพัฒนาตลาดการเงินในประเทศ
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นจากโครงสร้างประชากร
▪️ ความเสี่ยงของตลาดหุ้นอินเดีย
ความเสี่ยงในการลงทุนยังคงมีอยู่จากราคาอาหารที่อาจปรับสูงขึ้น ความผันผวนของราคาน้ำมันจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเลือกตั้งอินเดียที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนทั้งที่เคยลงทุนและไม่เคยลงทุนในกองทุนหุ้นอินเดียสามารถเข้าลงทุนเพิ่มได้ โดยแนะนำให้ลงทุนเป็นกองทุนหลักของพอร์ต (Core Portfolio) ในสัดส่วนประมาณ 4% ของพอร์ตการลงทุน
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888