21 มกราคม 2564
5,883

6 จุดเด่น พร้อมสรุปประเด็นหลัก "หุ้น OR" IPO Roadshow

6 จุดเด่น พร้อมสรุปประเด็นหลัก "หุ้น OR" IPO Roadshow
Highlight
"หุ้น OR" คุณค่าที่คู่ควร กับ Roadshow ออนไลน์ครั้งแรก นับถอยหลังสู่การเติบโตครั้งสำคัญ กับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำหรับ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ "OR"  ที่เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าร่วมเป็นเจ้าของอย่างทั่วถึงกับการเปิดขาย"หุ้น IPO"  24 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับรายย่อย


ทาง "OR" ได้มีจัด Roadshow ออนไลน์ไปเมื่อ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook LIVE ‘OR Official’ https://www.facebook.com/ORofficialTH/videos/228455472195239/

ทันข่าว Today สรุป Highlight สำคัญ

6 จุดเด่น "OR" 
  1. ดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี | ปี 62 มีมาร์เก็ตแชร์ที่ 38.9% เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 23 ปี 
    พร้อมทั้งวางเป้าหมายรักษาผู้นำมาร์เก็ตแชร์อย่างต่อเนื่อง ส่วนการตลาดเชิงพาณิชย์ บริษัทยังเป็นผู้นำตลาดทุกสินค้าทั้งน้ำมันหล่อลื่น ธุรกิจ LPG เป็นต้น

    20210121-a-07.jpg

  2. บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานทั้งในกลุ่ม PTT และกลุ่มบริษัทอื่นๆได้อีกด้วย 
  3. สามารถส่งมอบเชื้อเพลิงให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยมีคลังสินค้าทุกจุดสำคัญในไทย กว่า 53 จุด 

    20210121-a-08.jpg

  4. เดินหน้าขยายธุรกิจ Non-Oil ที่มีอัตรากำไรสูง

    20210121-a-09.jpg
     
  5. ต่อยอดความสำเร็จด้วยการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ 
  6. บริษัทถือเป็นเรือธงสำคัญของ PTT ซึ่งหลัง IPO  PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลัก และสนับสนุน OR อย่างต่อเนื่อง

“เราเชื่อมั่นว่าช่วงเวลานี้ถือเป็นจังหวะเวลาอันเหมาะสมที่ OR พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ ด้วยการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากจุดแข็ง รากฐานทางธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโตอันแข็งแกร่งของ OR เพื่อก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกอย่างแท้จริง กับแนวคิดธุรกิจ “Retailing Beyond Fuel” วันนี้ เราพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมเป็นเจ้าของและต่อยอดสู่การเติบโตที่ไกลกว่าเดิม” นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR  กล่าวอย่างเชื่อมั่น 

20210121-a-02.jpg

การจองหุ้น
  • จัดสรรแบบวิธี Small Lot First   - เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยเข้ามาเป็นเจ้าของอย่างทั่วถึง 

    20210121-a-01.jpg
วิธี Small Lot First โดยจะจัดสรรให้กับรายย่อยในรอบแรกจำนวน 300 หุ้นต่อราย หมายความว่า ไม่ว่าผู้จองซื้อจะจองซื้อหุ้น IPO จำนวนเท่าไรก็ตาม จะได้รับการจัดสรรหุ้น จำนวน 300 หุ้นต่อรายก่อนในรอบแรก หลังจากนั้นระบบเซ็ทเทรดจะจัดสรรหุ้นรอบถัดไป โดยเพิ่มรอบละ 100 หุ้นต่อราย จนกว่าหุ้นจะหมด
  • กำหนดช่วงราคาเสนอขาย 16.00 – 18.00 บาทต่อหุ้น
  • ซึ่งผู้จองซื้อรายย่อย สามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย และกรุงไทย ที่สำนักงานใหญ่และทุกสาขาทั่วประเทศและผ่านช่องทางออนไลน์ ในวันที่ 24 มกราคม 2564 – เวลา 12:00 น. (เที่ยง) ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
    https://www.thunkhaotoday.com/news/investing/274/
  • สัดส่วนการเสนอขายหุ้น IPO ขายให้ต่างชาติ 17% นักลงทุนในไทย 83%
  • เตรียมนำหุ้น OR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกภายในต้นเดือน กุมพันธ์ 2564
  • สำหรับผู้ถือหุ้น ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น สามารถจองซื้อได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 25-28 มกราคม 2564
อนาคต "OR" ใน 5 ปีข้างหน้า 2564 - 2568

แผนการเดินงาน 5 ปีนับจากนี้ บริษัทกำหนดงบลงทุนที่ระดับ 74,600 ล้านบาท เพื่อรองรับ

  • ธุรกิจสถานีน้ำมันสัดส่วนราว 34% 
  • ธุรกิจ Non-Oil ราว 28% 
  • ธุรกิจต่างประเทศราว 21% 
  • รองรับการขยายธุรกิจ พร้อมทั้งเปิดโอกาสธุรกิจใหม่อีก 15%

    20210121-a-03.jpg
ธุรกิจน้ำมัน - เน้นการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยี
  • ขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เพิ่มเป็น 2,500 สาขาในปี 2568 หรือปีละ 100 แห่ง (จากปัจจุบัน 1,968 สาขา)สาขาที่เปิดใหม่ทั้งหมดจะมีสัดส่วนรูปแบบตัวแทนจำหน่ายเป็นเจ้าของและบริหารเอง(DODO) 80% และ บริษัทฯเป็นเจ้าของและบริหารเอง(COCO) 20%

    20210121-a-10.jpg

  • เปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันเป็น Living Community 
    เน้นการเป็นศูนย์กลางค้าปลีกของชุมชนนั้นๆ สร้างช่องทางจำหน่ายสินค้าของชุมชนที่ OR ไปตั้งอยู่
  • มองยานยนต์ไฟฟ้า(EV) เป็นโอกาสใหม่ของ OR 
    แม้ว่ายอดจดทะเบียนรถ EV แค่ 2% จากรถจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด แต่ระหว่างนี้ได้ติดตั้งสถานีชาร์จไว้แล้วทั้งหมด 25 แห่งทั่วประเทศ และสร้างแอปพลิเคชันรองรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
    แอปพลิเคชันนี้จะเก็บข้อมูลผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาวิเคราะห์ความต้องการในอนาคต เมื่อได้ข้อมูลแล้ว OR จะสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมารองรับ ทำให้เกิด Ecosystem ทั้งการผลิตแบตเตอรี่ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ผลิตและขายเครื่องชาร์จ(EV Charger) ติดตั้งในสถานีบริการของตัวเอง และเริ่มธุรกิจบริการชาร์จ หรืออื่นๆ ที่ผู้บริโภคอาจต้องการในอนาคต ซึ่งต่อไปมีแผนติดตั้ง EV Charger ในปั๊มที่ตั้งอยู่บนทุกเส้นทางหลักทั่วประเทศไทย
  • เพิ่มบริการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าภายในศูนย์บริการ FIT Auto

    20210121-a-04.jpg 
ธุรกิจ Non-Oil และต่างประเทศ  - ตัวสร้างการเติบโต(Growth Engine)

เป้าหมายคือจะเพิ่มฐานรายได้และมาร์จิ้นอีก จากขยายสาขาในส่วนของแบรนด์ที่ตัวเองมีอยู่, หาคู่ค้าเพื่อลงทุนสร้างแบรนด์ใหม่, และเข้าซื้อแบรนด์อาหาร เครื่องดื่มอื่นๆ
“ส่วนมาร์จิ้นของธุรกิจ Non-Oil ที่ต้องยอมรับว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าธุรกิจน้ำมันเป็นอย่างมาก  จึงทำให้บริษัทมุ่งเน้นสร้างกำไรจากธุรกิจนี้ ดังนั้นเมื่อรวม 2 ธุรกิจแล้ว สัดส่วนการทำกำไรของบริษัทจะมาจากธุรกิจนอนออยล์เป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น” นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน OR  ให้ความเห็น

  • ขยายสาขาคาเฟ่ อเมซอน(Cafe Amazon)เพิ่มอีก 2,100 สาขา 
    จากปัจจุบัน 3,168 สาขา เน้นขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ นอกสถานีบริการน้ำมัน 
    เพิ่มสินค้าเบเกอร์รี่ของตนเองในร้านคาเฟ่ อเมซอน ลงทุนทั้งโรงงานผลิตเบเกอร์รี่ ผงผสมเครื่องดื่ม และศูนย์กระจายสินค้าของตัวเอง
  • ขยายสาขาร้าน เท็กซัส ชิกเก้น(Texas Chicken) 20 แห่งต่อปี 
    เน้นการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์
  • สัญญาร้านค้ากับ 7-Eleven พันธมิตรที่เสริมกัน 
    ปัจจุบันเป็นสัญญารอบที่ 2 รอบละ 10 ปี เหลืออีก 2 ปีจะครบสัญญา เบื้องต้นพูดคุยรายละเอียด
  • การซื้อหุ้นของ "พีเบอร์รี่ ไทย" จะช่วยลดต้นทุนในการขยายสาขาคาเฟ่ อเมซอน เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ร้านกาแฟทั้งหมด และได้แบรนด์ Pacamara กาแฟสำหรับตลาดนิช(Niche Market) เข้ามาจับกลุ่มที่ไม่ใช้บริการคาเฟ่ อเมซอนด้วย
  • พร้อมเริ่มจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ระบบชำระเงินออนไลน์ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ร่วมมือกับ Flash Express ให้บริการเดลิเวอรี่ และรองรับคำสั่งซื้ออื่นๆ ผ่านช่องทางออนไลน์
  • มองโอกาสที่จะลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์  

    20210121-a-05.jpg

    20210121-a-06.jpg
ประเด็นการโอนสินทรัพย์จาก PTT เพื่อแยก OR นั้นบริษัทมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ

โดยบริษัทมีการซื้อธุรกิจจาก PTT ด้วยราคาตลาด โดยเป็นราคาที่ผู้ประเมินราคาอิสระ และที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้ประเมินราคา โดยการโอนเกิดขึ้นเมื่อปี 2561 ซึ่งในปีนั้นทาง PTT ก็ได้มีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากส่วนต่างราคาโอนระหว่างราคาตลาด กับราคาทางบัญชี โดย PTT จ่ายภาษีให้กับกระทรวงการคลังในปี 2561 จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท และรายงานงบการเงินของทั้ง 2 บริษัทได้รับการรับรองจาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินอย่างไม่มีเงื่อนไข

หลังการ IPO มีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผล เพราะ OR มีแผนจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ประกาศจ่ายปันผลงวดสิ้นปีอาจเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม

ตอกย้ำความเป็นหุ้น IPO สุดฮอตแห่งปี 64 คุณค่าที่คู่ควร 
สำหรับใครที่สนใจร่วมเติบโตไปด้วยกัน อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม 24 มกราคม 2564 อย่าพลาด!!

ติดต่อโฆษณา!