14 กุมภาพันธ์ 2567
880
ครม.เคาะก่อหนี้สาธารณะปี 67 เพิ่ม 5.6 แสนล้าน ยอดหนี้รวมทะลุกว่า 2 ล้านล้านบาท
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ โดยให้ปรับวงเงินการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 560,276 แสนล้านบาท จากเดิม 194,434 ล้านบาท มาเป็น 754,710 ล้านบาท
นายชัย ระบุว่า การก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้ใช้สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่เป็นการใช้สำหรับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลอีก 56 โครงการ
สำหรับแผนบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.621 ล้านล้านบาท เป็น 2.008 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 387,758 ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ ให้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 390,538 ล้านบาท เป็น 399,613 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9,075 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการปรับเพิ่มวงเงินในครั้งนี้ อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยเฉพาะพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี อยู่ที่ 61.29% จากรอบที่กำหนดไว้ 70% ขณะที่สัดส่วนหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ อยู่ที่ 33.06% จากกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 35% นายชัย ระบุ
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติให้บรรจุโครงการพัฒนาตามแผนปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 56 โครงการ และอนุมัติให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ต่ำกว่าภาระหนี้ ให้สามารถกู้เงินมาบริหารงานได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ที่ประชุม ครม.ยังรับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2571) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัด ประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุน เพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป
นายชัย ระบุว่า การก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้ใช้สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่เป็นการใช้สำหรับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลอีก 56 โครงการ
สำหรับแผนบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.621 ล้านล้านบาท เป็น 2.008 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 387,758 ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ ให้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 390,538 ล้านบาท เป็น 399,613 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9,075 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการปรับเพิ่มวงเงินในครั้งนี้ อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยเฉพาะพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี อยู่ที่ 61.29% จากรอบที่กำหนดไว้ 70% ขณะที่สัดส่วนหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ อยู่ที่ 33.06% จากกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 35% นายชัย ระบุ
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติให้บรรจุโครงการพัฒนาตามแผนปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 56 โครงการ และอนุมัติให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ต่ำกว่าภาระหนี้ ให้สามารถกู้เงินมาบริหารงานได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ที่ประชุม ครม.ยังรับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2571) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัด ประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุน เพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป