PTT กำไรปี 66 พุ่งแตะ 1.12 แสนล้านบาท โต 23% เตรียมจ่ายปันผล 1.20 บาท

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลดำเนินงานประจำปี 66 มีกำไรสุทธิ 1.12 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนอยู่ที่ 9.1 หมื่นล้านบาท หลังจากผลขาดทุนตราสารอนุพันธ์ลดลง รวมทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้สหรัฐเพิ่มจากเงินบาทแข็งค่า 

บริษัทเตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 1.20 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 ก.พ.กำหนดจ่าย 30 เม.ย.67 นี้

ปตท. และบริษัทย่อยรายงานผลการดำเนินงานปี66  มีจำนวน 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,849 ล้านบาท หรือ 22.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่  91,175 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 13,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ กลุ่มปตท. มีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีจำนวน 13,194 ล้านบาท ลดลง 61,720 ล้านบาท หรือ 82.4% จากตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของ  PTTGC  TOP และ IRPC

ขณะที่บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 22,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,733 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% จากปีก่อน โดยมาจากการรับรู้ผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นตามการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปี 66 

ประกอบกับมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 500 ล้านบาท ขณะที่ในปี 65 มีขาดทุนประมาณ 10,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมของบริษัท โดยจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 ก.พ. 67

กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุนวายุภักษ์รับปันผลรวมประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท.และบริษัทในเครืออีกประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท รวมกลุ่ม ปตท.นำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจปี 2566 ให้กับรัฐแล้วประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท