วัดขุมกำลัง Virtual Bank เอเซียพลัส ชี้กลุ่ม KTB โดดเด่น !

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เผยภายหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดยื่นคำขอใบอนุญาตจัดตั้ง Virtual bank ระหว่างวันที่ 20 มี.ค. - 19 ก.ย. 67 ปรากฏว่าหลายกลุ่มมีความเคลื่อนไหวในการจัดตั้ง และสนใจเข้าร่วมขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ได้แก่

1. KTB (KTB + ADVANC + GULF + OR)

2. TRUE Money

3. SCB เปิดตัวเตรียมร่วมกับ WeBank ธนาคารดิจิทัลจากจีน เพิ่มเติมจาก Kakao bank ซึ่งเป็น Virtual bank จากเกาหลีใต้

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากลุ่ม JMART ซึ่งมีฐานข้อมูลของ SINGER และความเชี่ยวชาญในการติดตามหนี้ของ JMT เตรียมเข้าหารือกับ KBANK เพื่อยื่นขอใบอนุญาต

ทั้งนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้กำหนดจำนวนใบอนุญาตของ Virtual Bank  โดยให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ธปท. ในการพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น ทุน, ความพร้อมด้านเทคโนโลยี, กลยุทธ์ธุรกิจ, โมเดลธุรกิจ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า

Virtual Bank คือธนาคารรูปแบบใหม่ ที่สามารถใช้เทคโนโลยี เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลหรือลูกค้ารายเล็ก ที่ไม่ด้รับบริการทางการเงินอย่างเหมาะสม (Underserved) หรือกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Unserved) ตามนิยามของ ธปท.

ASPS มองว่าชื่อชั้นของบริษัท/ธนาคาร ข้างต้น มีความพร้อมทั่งด้านฐานทุน และเทคโนโลยี ที่มีความใกล้เคียง 

ทำให้ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งฝั่งสินเชื่อ ผ่านโมเดลในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ภายใต้ฐานข้อมูลที่มีอยู่ รวมถึงรูปแบบการระดมเงินฝาก รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง ครอบคลุมคุณภาพสินทรัพย์, การบริหารสภาพคล่อง (NSFR และ LC) และโครงสร้างเงินทุน (BIS Ratio)

“ในมุมมองฝ่ายวิจัยกลุ่ม KTB ดูมีความพร้อมทั้งฐานทุนและข้อมูลจาก ADVANC เมื่อเทียบกับรายชื่อที่ปรากฎตามข้างต้น ส่วน SCB ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการมีพันธมิตรตามข้างต้น ดีในเชิงการพัฒนาระบบทั้งโมเดลในการพิจารณาสินเชื่อและการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก” นายเทิดศักดิ์ ระบุ 

แต่ฐานข้อมูลที่มีอยู่เป็นฐานข้อมูลที่ SCB มีเป็นหลักอยู่แล้ว จึงยังไม่เด่นเท่ากับกลุ่ม KTB ขณะที่กรณีของ KBANK ยังต้องติดตาม เพราะเดิม KBANK ไม่ได้มีแผนยื่นขอใบอนุญาต Virtual bank

อย่างไรก็ดีหากเกิดขึ้น จุดแข็งกว่ากลุ่มอื่นคือ การมี JMT ที่เชี่ยวชาญการติดตามหนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ในการบริหารจัดการความเสี่ยง ยามรุกฐานลูกค้ารากหญ้าตามความเห็นของฝ่ายวิจัย โดยไทม์ไลน์เบื้องต้นกระบวนการพิจารณาของ ธปท. แล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 68 และ Virtual bank จะพร้อมเปิดดำเนินการเดือน มิ.ย. 69

กล่าวโดยสรุปการมาของ Virtual bank ยังไม่มีผลต่อประมาณการปี 2567 - 2568 อีกทั้งสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารในแต่ละ Virtual bank เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อประมาณการ ยังต้องติดตามต่อ 

ในด้านการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เลือก TTB โดยให้ราคาเป้าหมาย 1.98 บาท เป็น Top pick กลุ่มฯ จากแนวโน้มกำไรปี 2567 ขยายตัวเด่นสุดเพราะการมี Tax Shield และการตั้งสำรองส่วนเพิ่มในงวดไตรมาส 4/2566 ทำให้แรงกดดันต่ำกว่ากลุ่มฯ

ขณะที่ธนาคารใหญ่อื่น ๆ มองว่า BBL ราคาเป้าหมาย 175 บาท และ KBANK ราคาเป้าหมาย 148 บาท ปรับฐานจนลงมาซื้อขายบริเวณ 0.5 เท่า และในเชิงราคาหุ้น อย่าง KBANK ถือว่าลงมาต่ำกว่าช่วงเดือน ส.ค.2565 และ BBL ใกล้เคียงกับช่วงดังกล่าว (วัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยรอบนี้เริ่มต้นเดือน ส.ค. 65)