BOI เผยยอดลงทุน 9 เดือน พุ่งกว่า 7.2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน 9 เดือน ปี67 เติบโตต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี  สิงคโปร์, จีน, ฮ่องกง ลงทุนมากที่สุด

โดยมีโครงการลงทุนทั้งสิ้น 2,195 โครงการ เพิ่มขึ้น 46% เงินลงทุนกว่า 7.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการส่งเสริมการลงทุน, กระแสการย้ายฐานการผลิตโลก, และการปรับกฎเกณฑ์การลงทุน และอื่น ๆ

▪️ กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่า 183,444 ล้านบาท, ดิจิทัล มูลค่า 94,197 ล้านบาท, ยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 67,849 ล้านบาท, เกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 52,990 ล้านบาท, และ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ มูลค่า 34,341 ล้านบาท 

▪️ กิจการที่มีการลงทุนสูงและอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ประกอบด้วย กิจการ Data Center จำนวน 8 โครงการ เงินลงทุนรวม 92,764 ล้านบาท โดยมีการลงทุนจากบริษัทรายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง และอินเดีย ที่เหลือเป็นกิจการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง, กิจการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น 

▪️ สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 1,449 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เงินลงทุนรวม 546,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 

▪️ ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีมูลค่าขอรับการส่งเสริมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ 180,838 ล้านบาท จีน 114,067 ล้านบาท ฮ่องกง 68,203 ล้านบาท ไต้หวัน 44,586 ล้านบาท และญี่ปุ่น 35,469 ล้านบาท

▪️ ในแง่พื้นที่ เงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก 408,737 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง 220,708 ล้านบาท ภาคเหนือ 35,452 ล้านบาท ภาคใต้ 25,039 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 23,777 ล้านบาท และภาคตะวันตก 8,812 ล้านบาท ตามลำดับ

▪️ สำหรับการออกบัตรส่งเสริม ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวน 2,072 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เงินลงทุน 672,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 101 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 
 
▪️ จากโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากบีโอไอในช่วง 9 เดือนแรกของปี67 คาดว่าจะมีการจ้างงานบุคลากรไทยเพิ่มกว่า 1.7 แสนคนใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนในประเทศประมาณ 8 แสนล้านบาท/ปี และจะเพิ่มมูลค่าส่งออกของประเทศอีกกว่า 2 ล้านล้านบาท/ปี

▪️ ทิศทางการลงทุนในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ยังคงมีแนวโน้มเติบโต แต่สิ่งที่บีโอไอให้ความสำคัญมากกว่าตัวเลขเม็ดเงินลงทุน คือคุณภาพของโครงการ และประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับ นายนฤตม์ ระบุ