08 มีนาคม 2564
4,466

อ่านงบการเงิน ฉบับ มือใหม่ ง่ายขึ้นในพริบตา‼️

อ่านงบการเงิน ฉบับ มือใหม่  ง่ายขึ้นในพริบตา‼️
Highlight

▪️ บริษัทรวยหรือไม่?
▪️ กำไรเยอะๆ ได้เป็นเงินสดบ้างหรือเปล่า?
▪️ บริษัทมีการลงทุนอะไรใหม่ๆ หรือไม่?
▪️ รายได้ มีแหล่งที่มาจากอะไรบ้าง?

หากยังไม่เข้าใจงบการเงิน = เราลงทุนโดยไม่ได้รู้จักธุรกิจนั้นดีพอ

เพราะ #งบการเงิน  หรือ Financial Statement ก็คือ บันทึกกิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทที่สำคัญ  ถือเป็นการสะท้อนผลงานของบริษัทได้ดีและชัดเจนที่สุด 


การวิเคราะห์งบการเงินก็เหมือนการตรวจสุขภาพธุรกิจเบื้องต้น โดยเฉพาะนักลงทุนไม่ว่าจะลงทุนแนวไหนก็ตาม ควรจะเข้าใจงบการเงิน เพราะการวิเคราะห์งบฯ รหัสกุญแจหนึ่งดอกสำคัญที่จะนำไปสู่การค้นพบบริษัทที่น่าลงทุน

ใครที่ยังไม่รู้จะจับจุดเริ่มจากตรงไหน  ทันข่าวToday เอาเทคนิคการอ่านงบการเงินแบบง่ายๆ มาฝากกัน

4 งบการเงินที่เราควรรู้จัก 

1. งบกำไรขาดทุน = ความสามารถทำกำไร
แสดงตัวเลขผลการดำเนินงาน ได้แก่ รายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไร/ขาดทุน ซึ่งจะบอกให้รู้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ไปจนถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

ควรสแกนดูทั้ง topline หรือ "รายได้" บรรทัดแรก และ bottom line หรือ "กำไรสุทธิ" บรรทัดสุดท้าย
2 ตัวเลขสำคัญต้องเป็นบวกและควรจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ไตรมาสที่แล้ว แต่การจะมีกำไรสุทธิเพิ่ม ก็ควรต้องมาจาก "รายได้เพิ่ม" ไม่ควรมาจากการลดต้นทุนอย่างเดียวเพราะเป็นการเพิ่มกำไรที่ไม่ยั่งยืน

2. งบดุล = ความอู่ฟู่ 
เป็นส่วนที่บอกฐานะการเงินของธุรกิจ ณ เวลานั้น ซึ่งมีรายการที่สำคัญ เช่น  สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ เพื่อทำให้เรารู้ว่าบริษัทนั้นมีความมั่นคง และมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจขนาดไหน

สิ่งที่ควรสแกนจากงบดุล  หลักๆ มี 4 ข้อ  ก็คือ
1. คุณภาพสินทรัพย์ ต้องเป็นสินทรัพย์ที่พร้อม และ ให้ประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น หลักๆคือ เงินสด ลูกหนี้ สินค้าคงคลังและที่ดินอาคารอุปกรณ์ 
2. สภาพคล่องกิจการ ธุรกิจควรมี สินทรัพย์หมุนเวียน (เงินสด,ลูกหนี้) มากกว่า หนี้สินระยะสั้น (เงินกู้สั้นที่ต้องชำระคืนใน 1 ปี) 
3. ความมั่นคงของกิจการคือดู D/E (Debt to Equity ratio) "หนี้น้อย ส่วนทุนหนา" จะดูดี น่าสนใจเพราะสะท้อนถึงความมั่นคงได้ 
4. กำไรสะสม (Retain Earnings) คือ กำไรสุทธิที่เกิดจากการทำมาหากินของบริษัทนับตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทจนถึงปัจจุบัน บริษัทที่มีกำไรสะสมมาก แสดงถึงฝีมือทำมาหากินที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสปันผลสูง

3. งบกระแสเงินสด = ความมั่นคง
บอกว่าเงินสดที่ธุรกิจได้มาและจ่ายออกไปของแต่ละกิจกรรมว่าใช้จ่ายไปกับส่วนไหนบ้าง เช่น ค่าจ้าง ค่าเช่า ซื้อสินค้า ฯลฯ ทำให้เราทราบถึงสภาพคล่องทางการเงินได้เป็นอย่างดี

สแกนกระแสเงินสด จาก 3 ส่วน 
1. กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน บรรทัดสุดท้ายควรต้องเป็นบวก เพราะหมายความว่า ทำธุรกิจแล้วสร้างเงินสด   
2. กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุน  แสดงการใช้เงินสดออกไปลงทุน ถ้าส่วนนี้เป็นลบแปลว่า มีการนำเงินออกไปลงทุนสร้างผลตอบแทนเพิ่ม ซึ่งมองบวก เพราะเป็นการขยับขยายธุรกิจ 
3. กระแสเงินสดสุทธิจากการจัดหาเงิน ถ้าเป็นลบ แสดงว่าใช้เงินสดจ่ายออก เช่น ปันผลหรือชำระหนี้ แต่ถ้าส่วนนี้เป็นบวก แสดงว่ารับเงินสดเข้า เช่น กู้เงินเพิ่มหรือเรียกเพิ่มทุนเข้ามา

4. หมายเหตุประกอบงบการเงิน  = ความโปร่งใส
งบการเงินที่สมบูรณ์ต้องมาพร้อมกับ หมายเหตุประกอบงบการเงิน ซึ่งเป็นการอธิบายอย่างละเอียดว่าแต่ละบรรทัดมีการคำนวณอย่างไร ภายใต้สมมติฐานอะไร ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสของการทำธุรกิจ

ใช้ดูขยายความรายการต่างๆ ในงบการเงินทั้งสาม ดูคดีความฟ้องร้อง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นักลงทุนควรเข้าใจว่า ส่วนใดในงบการเงินมีความสำคัญอย่างไรต่อการตัดสินใจลงทุน เราไม่ได้เรียนรู้งบการเงินเพื่อลงบัญชี แต่เรา "ทำความเข้าใจ" ข้อมูลในงบการเงิน เพื่อหาโอกาสในการลงทุน!!

ข้อมูลอ้างอิง 

"ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ" อธิป กีรติพิชญ์
เทคนิคการวิเคราะห์งบการเงินบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 
https://www01.bualuang.co.th/le/help/kw/ebook004.pdf

ติดต่อโฆษณา!