26 พฤษภาคม 2564
3,917
5 ข้อต้องรู้ ก่อนเริ่มลงทุนใน “กองทุนรวม”
1. “รู้เป้าหมาย” ของการลงทุน
สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ก่อนการลงทุนคือ การกำหนดเป้าหมายการลงทุน ว่าเราลงทุนเพื่ออะไร ? เช่น เก็บเงินสำรอง เพื่อซื้อรถ ซื้อบ้าน ลงทุนเพื่อเกษียณ ฯลฯ
จากนั้นให้ลำดับความสำคัญของเป้าหมาย เพื่อให้รู้ว่า เราต้องเริ่มลงทุนกับเป้าหมายไหนก่อน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย เช่น เป้าหมายแรก คือ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน ซึ่งมีความสำคัญสุด รองลงมา คือ เป้าหมายซื้อรถ ซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่า
2. “รู้ว่ากองทุนไหน” เหมาะกับตัวเอง
ก่อนลงทุน เราต้องศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างละเอียด ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพื่อเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ตรงกับความต้องการ และมีความเหมาะสมกับเรามากที่สุด 3 ข้อดังนี้
2.1. เลือกกองทุนในระดับความเสี่ยง ที่เรายอมรับได้
2.2. ดูนโยบายการลงทุน ให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา
2.3. พิจารณาค่าธรรมเนียม ของกองทุนว่าเหมาะสมหรือไม่
3. “รู้วัตถุประสงค์” ในการเลือกกองทุน
ต้องเข้าใจว่ากองทุน มีกี่ประเภท และกองทุนประเภทไหนใช้กับวัตถุประสงค์อะไรได้บ้าง เพื่อให้ตรงตามเป้าหมายการลงทุนที่เราตั้งไว้
3.1. กองทุนรวมตลาดเงิน
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปกป้องเงินต้น และต้องการสภาพคล่องสูง
3.2. กองทุนรวมตราสารหนี้
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ประจำ
3.3. กองทุนรวมหุ้น
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการต่อยอดเงินลงทุนให้เติบโต
3.4. กองทุนรวมอสังหาฯ
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้ประจำ
3.5. กองทุนรวม SSF
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี และเพิ่มมูลค่า
3.6. กองทุนรวม RMF
เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี และออมลงทุนเพื่อเกษียณอายุ
4.วิธีการจัดพอร์ต” การลงทุน
ต้องจัดพอร์ตการลงทุน และปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ ให้เหมาะสมกับความเสี่ยง สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเรา ยกตัวอย่าง 3 พอร์ตการลงทุน ดังนี้
4.1. พอร์ตระมัดระวัง
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และคาดหวังผลตอบแทนไม่สูงมากนัก
4.2. พอร์ตปานกลาง
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง และคาดหวังผลตอบแทนกลาง ๆ
4.3. พอร์ตเชิงรุก
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และคาดหวังผลตอบแทนสูง
5. “รู้จักตรวจสอบ” แผนการลงทุน
หลังจากที่ลงทุนไปเรียยร้อยแล้ว ต้องหมั่นตรวจสอบแผนการลงทุน อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อดูว่าแผนการลงทุนเป็นไปตามคาดหรือไม่ ผลตอบแทนที่ได้มาทำกำไรได้ดีหรือไม่ และต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติม และติดตามข่าวสาร เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์การลงทุนที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงเสมอ และลดโอกาสการลงทุนที่ผิดพลาดได้มากขึ้น