เลือกซื้อประกันโควิด-19 อย่างไร ? สไตล์ทันข่าวลงทุน

HighLight

เห็นจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายวันแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการระบาดของโควิด-19 รอบนี้ น่าจะรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีในบ้านเรา ซึ่งทำให้คาดกันว่า กระแสการทำประกันที่ครอบคลุมเรื่องโควิด-19 น่าจะกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ทั้งจากลูกค้าใหม่ที่เริ่มกังวลมากขึ้น หรือจากลูกค้าเดิมที่อยากเพิ่มความคุ้มครอง วันนี้ #ทันข่าวลงทุน รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ เลยขอนำเสนอว่า โดยสรุป ประกันโควิด-19 บ้านเรา มีแบบไหนบ้าง และเราควรเลือกซื้อประกันโควิด-19 อย่างไร

แน่นอนว่า ประกันโควิด-19 นั้น มีความหลากหลาย ซึ่งก็เหมือนกับประกันชีวิต ประกันภัยทุกประเภท ที่มีการแจกแจงรายละเอียดยิบย่อยมากมาย มีข้อแม้ มีเงื่อนไขสารพัด ซึ่งสิ่งแรกสุดที่เราต้องทำ คือการอ่าน และศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ต่าง ๆ เช่น บางแบบกรมธรรม์ จะจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลให้ หรือบางแบบ จะจ่ายเป็นเงินก้อนชดเชยให้ เมื่อตรวจพบว่าได้รับเชื้อไวรัส COVID-19 หรือบางแบบ ประกันจะจ่ายค่าชดเชยให้ เมื่อผู้เอาประกันเข้าขั้นโคม่าหรือเสียชีวิต บางรูปแบบ รวมกรณีการแพ้วัคซีน หรือบางแบบ มีการชดเชยรายได้ให้ กรณีต้องรักษาตัว


อีกอย่างที่ต้องดูคือเงื่อนไข ข้อยกเว้น เช่น ส่วนใหญ่ไม่คุ้มครองผู้เอาประกันที่มีการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงก่อนทำประกัน หรือต้องมีระยะเวลารอคอย ก่อนประกันมีผล 14 วัน 


ถ้าลองแยกกลุ่มประกันโควิด-19 ออกมา น่าจะแบ่งได้ 4 ประเภท คือ

1. กลุ่มเน้นค่ารักษา กลุ่มนี้ บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกันตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่ง ณ เวลานี้ มีความจำเป็นมาก เพราะโรงพยาบาลบางแห่ง จะทำการตรวจโควิด-19 ให้เฉพาะคนที่มีประกันค่ารักษาพยาบาลครอบคลุม หรือสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเองได้

2. กลุ่มเจอปุ๊บ จ่ายปั๊บ กลุ่มนี้ก็ตามชื่อ คือบริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินก้อนให้แก่ผู้เอาประกัน ตามวงเงินผลประโยชน์ที่ได้ซื้อความคุ้มครองไว้ เมื่อมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าตรวจพบเชื้อไวรัสดังกล่าว

3. กลุ่มเงินชดเชยรายได้ ซึ่งมักจะขายพ่วงมากับแบบค่ารักษาพยาบาล โดยบริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์ชดเชยให้แก่ผู้เอาประกัน กรณีต้องนอนพักรักษาตัวจากการติดเชื้อที่โรงพยาบาล โดยจะจ่ายค่าชดเชยให้ต่อวัน ตามจำนวนวันที่นอนพักรักษาตัว แต่มักจะมีกำหนดว่าไม่เกินกี่วัน ต้องดูดี ๆ

4. กลุ่มคุ้มครองอาการหนัก โดยบริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์ ก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันเจ็บป่วยเข้าสู่สภาวะโคม่าหรือภาวะสมองตาย และระบบประสาทล้มเหลว หรือการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นการเจ็บป่วยรุนแรง ที่แพทย์ลงความเห็นว่าไม่มีวิธีการรักษาให้หายได้ และ/หรือเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตโดยมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
 

ซึ่งประกันหลาย ๆ แห่ง ในตอนนี้ มักจะผสมผสาน ทั้ง 4 แบบเข้าไว้ ทำให้แต่ละกรมธรรม์และของแต่ละบริษัท จะมีความเหมือนและความต่างกัน อย่างละเล็กละน้อย และบางแบบ ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติม ทำให้ตัดสินใจและเปรียบเทียบกันยากเข้าไปอีก เช่น รวมค่าตรวจโควิด-19 ให้สมาชิกในบ้าน เมื่อผู้เอาประกันตรวจพบโรค เป็นต้น


ทำให้เวลาเลือก เราต้องกลับมาโฟกัสที่ตัวเราเอง ว่าเราเหมาะกับแบบไหน และด้วยวงเงินเท่าไร เช่น อายุ อาชีพ มีความเสี่ยงมากแค่ไหน มีภาระครอบครัวหรือไม่ สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีหรือเปล่า และสามารถรับภาระค่าเบี้ยประกันได้ระดับไหน

และสุดท้าย ก็เน้นย้ำเช่นเคยว่าประกัน หากมีแล้วไม่ได้ใช้ ถือเป็นเรื่องดี แม้จะเสียเบี้ยประกันไปฟรี ๆ และย่อมดีกว่า ถ้าจำเป็นต้องใช้แล้วไม่มีอย่างมาก

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว