25 สิงหาคม 2564
1,560

ลุ้น ศบค. คลายล็อกดาวน์ ส่งผลบวกภาคธุรกิจ

ลุ้น ศบค. คลายล็อกดาวน์ ส่งผลบวกภาคธุรกิจ
Highlight
แน่นอนว่ามาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่กับร้านอาหาร แต่ยังรวมถึงภาคบริการแทบทั้งหมด ตั้งแต่โรงแรม ร้านนวด คลีนิกเสริมความงาม ร้านตัดผม และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งทาง ศบค. เอง ก็แจ้งมาโดยตลอดว่า หากตัวเลขผู้ติดเชื้อ เริ่มลดลงเมื่อไหร่ จะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อในปัจจุบัน แม้จะยังทรงตัวในระดับใกล้ 20,000 รายต่อวัน แต่ก็ปรับลดลงมาจากจุดสูงสุด ทำให้หลายคนกำลังลุ้นว่าจะคลายมาตรการล็อกดาวน์หรือไม่

 
โดยทาง ศบค. มีนัดประชุมกันในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. นี้ แน่นอนว่าประเด็นที่ทุกคนจับตา คือจะมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมธุรกิจร้านอาหารและอีกหลายธุรกิจ เช่นร้านสินค้าไอที ร้านค้าสินค้าก่อสร้าง โรงหนัง โรงเรียน หรือไม่
 
ซึ่งในด้านผู้ประกอบการเอง ก็เสนอไปยังกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แบ่งเป็น 3 เฟส ด้วยกันคือ
 
1. ตั้งแต่ 1 ก.ย.21 ให้ร้านอาหารนั่งทานในร้านได้ 50% โดยมีเงื่อนไขร้านต้องสะอาด พนักงาน และลูกค้าต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และ/หรือ มีผลตรวจโควิดแบบ ATK / ร้านสินค้าก่อสร้าง, ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ทันตกรรม ร้านนวด ร้านเสริมสวย (ยกเว้นใบหน้า), ร้านขายสินค้าไอที, สนามกอล์ฟ และกีฬากลางแจ้ง สามารถเปิดกิจการได้ เป็นต้น
 
2. ตั้งแต่ 15 ก.ย. 21 ให้ทานอาหารในร้านได้ 75% ให้เปิดร้านเสื้อผ้า สถาบันการศึกษา
 
3. และตั้งแต่ 30 ก.ย. 21 หรือเร็วกว่านั้น ให้ทานอาหารในร้านได้ 100% ให้เปิดธุรกิจสปา เครื่องเล่นเด็กและผู้ใหญ่ ฟิตเนส และออกกำลังกายในร่ม โรงหนัง และห้องจัดเลี้ยง
 
ซึ่งแน่นอนว่า สุดท้ายก็จะต้องอยู่ที่ ศบค. รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากตัวเลขไม่กลับมาปรับเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นการผ่อนคลายมาตรการ
 
ในด้านการลงทุน หากสามารถผ่อนคลายได้ตามแผนดังกล่าว บล. ฟินันเซีย มองว่า เป็นบวกต่อ กลุ่มห้างและร้านค้า CPN CRC BJC HMPRO GLOBAL DOHOME TOA DRT, ร้านอาหาร M ZEN AU OISHI, ร้านสินค้าไอที COM7 SPVI CPW SYNEX, ร้านสปา SPA, โรงหนัง MAJOR, กลุ่มโรงแรม และโรงเรียน SISB

ติดต่อโฆษณา!