17 กันยายน 2564
1,522
กรุงเทพฯ เตรียมเปิดเมือง 15 ตุลาคม ปลุกหุ้นโรงแรม ท่องเที่ยว ค้าปลีกคึกคัก
Highlight
โครงการ “แบงค็อก แซนด์บ็อกซ์” ปลุกกระแสการลงทุนในหุ้น Reopening Plays อีกครั้ง หลักทรัพย์กสิกร เปิดโผหุ้นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ค้าปลีก รวมถึงอสังหาฯ ที่น่าสนใจ นำโดย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC), บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ERW) และหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)
เคาะวันเปิด “กรุงเทพฯ” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ดีเดย์ 15 ต.ค. เที่ยวได้ทุกเขต ภายใต้โครงการ “แบงค็อก แซนด์บ็อกซ์” หลังเลื่อนจากกำหนดเดิม 1 ต.ค. รอฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ถึงเกณฑ์ 70%
- เงื่อนไข “กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์” นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเขตไหนก็ได้ภายในกรุงเทพฯ แต่ต้องกลับมานอนที่โรงแรม เมื่ออยู่กรุงเทพฯครบ 14 วันถึงจะเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้
- หรืออาจพำนักในกรุงเทพฯครบ 7 วันแรก และใน 7 วันหลัง สามารถไปเที่ยวพื้นที่นำร่องอื่นๆ ในอีก 8 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล) พังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่) รวมทั้งพื้นที่ที่จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
วันที่ 24 ก.ย.นี้ พิจารณาพร้อมกัน ประกอบด้วย เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.ดอยเต่า อ.แม่ริม อ.แม่แตง) ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และเพชรบุรี (ชะอำ)
มุมมอง บล.กสิกร (KS) มองเป็นบวกกับกลุ่ม Reopening plays
หุ้นโรงแรมที่เน้นตลาดในประเทศจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพ หุ้นสนามบิน หุ้นศูนย์การค้า รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์บางบริษัทที่มีลูกค้าต่างชาติ ทั้งนี้หุ้นที่น่าสนใจ เช่น AWC (70% ห้องพักอยู่ใน กทม.), ERW (60% ห้องพักอยู่ใน กทม.), AOT และ BAFS (สนามบินหลักอยู่ใน กทม.), CRC (รายได้ 50% อยู่ใน กทม. และนักท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของยอดขาย), CPALL (สาขาใน กทม. คิดเป็น 43% และนักท่องเที่ยวคิดเป็น 6% ของยอดขาย) และ D (ลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 50-60% และสาขาส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.), CPN (รายได้จากศูนย์การค้าที่เน้นต่างชาติ 25% ของรายได้รวม), AMATA (ลูกค้าต่างชาติ 100% อยู่ในกทม. และภาคตะวันออก), ANAN, NOBLE, SIRI (รายได้จากลูกค้าต่างชาติ 35-40%)