TU เข้าถือหุ้น RBF ดีลเป็นอย่างไร

Highlight

ข่าวการลงทุนช่วงนี้ มีเรื่องการเข้าซื้อกิจการ หรือเข้าถือหุ้นบางส่วนระหว่างบริษัทจดทะเบียนกันค่อนข้างมาก อย่างล่าสุด ก็มีหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น รายงานว่า TU หรือไทยยูเนียนกรุ๊ป เจ้าพ่ออาหารทะเลของโลกสัญชาติไทย เตรียมเข้าถือหุ้นของ RBF หรือผู้ผลิตวัตถุดิบเครื่องดื่มและอาหาร ที่กำลังมีธีมลงทุนในกัญชง ดีลนี้เป็นอย่างไร

บล. ฟินันเซีย มองว่าดีลนี้ จะเป็นการซื้อหุ้นจากเจ้าของ RBF กลุ่มรัตนภูมิภิญโญ จากปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 71.62% จำนวนหุ้นที่ขาย 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของหุ้นทั้งหมด หลังขายจะเหลือการถือ 61.62% ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และจะได้รับเงินจากการขายครั้งนี้ 3.2 พันลบ.

มุมมองต่อ RBF เป็นอย่างไร

มุมมองต่อ RBF ราคาซื้อขายที่ 16 บาท ต่ำกว่าราคาบนกระดานวันศุกร์ 19.6% ถือเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้น แต่ในเชิงพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กลุ่มรัตนภูมิภิญโญยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด และเป็นผู้บริหารหลักตามเดิม 

เรามองบวกต่อ RBF แม้เดิม TU กับ RBF จะเป็นคู่ค้ากันอยู่แล้ว แต่การที่ TU เข้ามาถือหุ้น จะทำให้กลายเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นขึ้น RBF น่าจะได้คำสั่งซื้อจาก TU มากขึ้นในอนาคต เรายังคงเป้า RBF ปี 2022 ที่ 21 บาท หากราคาหุ้นปรับลงต่ำกว่า 19 บาท มองเป็นจังหวะในการซื้อ

มุมมองต่อ TU เป็นอย่างไร

มุมมองต่อ TU ราคาซื้อ RBF ที่ 16 บาท ถือเป็นจุดเข้าที่ดีของ TU เพราะยังไม่ได้สะท้อนมูลค่าของกัญชงในอนาคต สะท้อนเพียงธุรกิจปัจจุบันที่มีอยู่ ซึ่งหากกัญชงสำเร็จตามเป้าหมาย จะเป็น upside ในอนาคต 

ในเชิงตัวเลขอาจไม่ส่งผลบวกต่องบ TU อย่างมีนัย เพราะถือหุ้นเพียง 10% ทางบัญชีรับรู้เพียงเงินปันผลจาก RBF 

แต่เรามองว่า TU น่าจะมองไกลกว่านั้น เพราะ RBF ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีความคืบหน้ากัญชงมากที่สุด สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ TU ที่ต้องการขยายพอร์ต Innovative Product ไม่เพียงแต่ Support วัตถุดิบกัญชงหรือสมุนไพรอื่นๆเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาสินค้าอื่นๆได้อีกมาก จากการอาศัยจุดแข็งของ RBF ที่เป็นผู้นำในวัตถุดิบต้นน้ำอย่างวัตถุแต่งกลิ่นและสีในอาหารเครื่องดื่ม และการเดินหน้าทำ R&D อย่างต่อเนื่อง เรามองบวกต่อ TU แนะนำซื้อ เป้าปี 2022 ที่ 30 บาท