ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างไรให้ปลอดภัย รับ 11.11
Highlight
วันที่ 11 เดือน 11 อย่างวันนี้ นอกเหนือจากจะเป็นวันคนโสดแล้ว ยังถือว่าเป็นวันแห่งการช้อปปิ้งประจำปีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยคงเตรียมตัวรอซื้อหาสินค้าออนไลน์กันในวันนี้ เพราะได้โปรโมชั่น ส่วนลดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมระมัดระวังเรื่องการซื้อของออนไลน์กันด้วย ทันข่าว Today รวบรวมหลักการซื้อของออนไลน์เพื่อให้ทุกท่านช้อปปิ้งได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล
ข้อควรระวังการซื้อสินค้าออนไลน์
1. อย่าใช้ฟรี WI-FI สาธารณะที่ไม่รู้ที่มาที่ไปในขณะช้อปออนไลน์ และช้อปผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวเท่านั้น เพื่อป้องกันการดักขโมยข้อมูลจากมิจฉาชีพ
2. ช้อปผ่านแอปพลิเคชัน หรือผู้ขายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
3. อ่านเงื่อนไขในการซื้อสินค้าออนไลน์ก่อนใช้งาน เพื่อจะได้รู้ขั้นตอนการสั่งซื้อ วิธีการจ่ายเงิน การแจ้งข้อผิดพลาดระหว่างการใช้งาน การตรวจรับสินค้า นโยบายการขอคืนเงินหรือสินค้า เมื่อไม่ได้รับสินค้า หรือสินค้ามีปัญหา
4. ค่อยๆ เลือกสินค้า และเปรียบเทียบกับร้านออนไลน์อื่นๆ ที่ขายสินค้าแบบเดียวกัน ทั้งในแง่ความน่าเชื่อถือของร้านค้า ราคา คุณภาพ การจัดส่ง รวมถึงรีวิวจากผู้ซื้อจริงประกอบการตัดสินใจ
5. สินค้าบางอย่างที่จำเป็นต้องรู้ขนาด สี/ลวดลาย หรือจำนวนชิ้นในบรรจุภัณฑ์ หากร้านค้าออนไลน์ให้ข้อมูลไม่ละเอียดพอต่อการตัดสินใจ ก็ไม่ควรสั่งซื้อ เพราะอาจได้สินค้าไม่ตรงตามความต้องการ
6. ตรวจสอบชื่อ-สกุล ที่อยู่ในการจัดส่ง และเบอร์ติดต่อของเราให้ถูกต้อง
7. ดูระยะเวลาในการจัดส่งทุกครั้งว่าใช้เวลาประมาณกี่วัน เป็นช่วงที่เราสะดวกรับสินค้าหรือไม่ ทันต่อการนำไปใช้หรือไม่
8. อย่าสั่งซื้อสินค้าในช่วงที่อินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่มีปัญหา เช่นเครื่องทำงานช้า สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยดี เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นระหว่างการสั่งซื้อและจ่ายเงินได้
9. เก็บหลักฐานการสั่งซื้อไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง หากไม่แน่ใจว่าใบคำสั่งซื้อจะมีข้อมูลสินค้าและรายละเอียดการจ่ายเงินของเราครบถ้วนหรือไม่ หรือควรถ่ายรูปหน้าจอที่เห็นรายละเอียดสินค้าและยอดเงินที่เราจ่ายเก็บไว้ก่อน
10. ใครที่เป็นมือใหม่ในการช็อปออนไลน์ อาจเริ่มจากการสั่งซื้อน้อยๆ หรือมองหาร้านค้าที่มีตัวเลือกเก็บเงินปลายทางดูก่อน เพื่อความสบายใจ
11. กรณีร้านค้ามาส่งสินค้าเอง ให้เช็กสินค้าต่อหน้าพนักงานจัดส่ง ของที่ส่งต้องตรงกับใบเสร็จ พร้อมดูวันหมดอายุสำหรับสินค้าที่มีระยะเวลาใช้งาน หากพบรายการที่ผิดพลาดให้แจ้งพนักงานจัดส่งของร้าน และขอรายละเอียดในการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า พร้อมถ่ายรูปเป็นหลักฐานเก็บไว้ด้วย
12. กรณีร้านค้าใช้บริการจัดส่ง ควรถ่ายภาพสินค้าที่ได้รับเก็บไว้ ส่วนสินค้าที่อยู่ในพัสดุ ควรถ่ายวิดีโอขณะแกะหีบห่อไว้ด้วย หากสินค้าไม่ครบถ้วน ชำรุด เสียหาย หรือไม่ได้มาตรฐาน จะได้มีหลักฐานประกอบการขอคืนเงิน การเปลี่ยนสินค้า หรือระงับการชำระเงิน
13. หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ควรทำความสะอาดหีบห่อ และบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาเก็บหรือใช้งาน
14. กรณีจ่ายด้วยบัตรเครดิต เมื่อได้รับใบแจ้งยอดบัตรเครดิตมา รีบตรวจสอบว่าตรงกับยอดที่เราใช้จ่ายไปหรือไม่ หากไม่ตรง ยิ่งรู้เร็ว จะสามารถแก้ปัญหาได้ไว โดยติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารผู้ออกบัตรได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อยากจะแนะนำที่สุดสำหรับทุกคน คืออยากให้ลองคิดให้ถี่ถ้วนก่อน ว่าของที่เรากำลังจะซื้อ เราอยากได้จริงๆ หรือจำเป็นจริงๆ ใช่หรือไม่ หรือเราแค่กำลังอยากได้เพราะโปรโมชั่น เพราะการซื้อของที่ถูกแค่ไหน ถ้าไม่ได้ใช้ หรือไม่ได้จำเป็น ก็ถือเป็นความสิ้นเปลืองเช่นกัน