11 พฤศจิกายน 2564
4,745

6 ค่ายผลิตรถยนต์ชั้นนำ เตรียมเลิกผลิตรถใช้น้ำมันในปี 2040 เพื่อลดปัญหาโลกร้อน

6 ค่ายผลิตรถยนต์ชั้นนำ เตรียมเลิกผลิตรถใช้น้ำมันในปี 2040 เพื่อลดปัญหาโลกร้อน
Highlight

6 ค่ายยานยนต์ชั้นนำของโลกเตรียมประกาศเป้าหมายเลิกผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกภายในปี 2040 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อน ประกอบด้วยด้วย วอลโว, ฟอร์ด มอเตอร์, เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม), เมอร์ซิเดส-เบนซ์, บีวายดี ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีน และ จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ทาทา มอเตอร์ส ของอินเดีย


ปัญหาโลกร้อนและมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมโลกเปลี่ยนแปลงและเป็นอัตรายต่อสุขภาพ 6 ค่ายยานยนต์ชั้นนำของโลกเตรียมประกาศเป้าหมายเลิกผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกภายในปี 2040 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อน

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่าผู้ผลิตรถยนต์ 2 รายใหญ่ของโลกอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และ โฟล์กสวาเกน เอจี รวมไปถึงตลาดรถยนต์ในจีน, สหรัฐฯ และเยอรมนี ยังปฏิเสธที่จะร่วมในคำมั่นสัญญานี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับโลก

ข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคล, เรือ, รถบัส และเครื่องบิน มีการปลดปล่อยคาร์บอนรวมกันประมาณ 1 ใน 4 ของโลก โดยคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนใหญ่มาจากท่อไอเสียของรถบนท้องถนน

6 ค่ายรถยนต์ซึ่งประกอบด้วยวอลโว, ฟอร์ด มอเตอร์, เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม), เมอร์ซิเดส-เบนซ์, บีวายดี ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีน และ จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ทาทา มอเตอร์ส ของอินเดีย คาดว่าจะมีการลงนามคำมั่นสัญญาเลิกผลิตรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลระหว่างการประชุมสภาพอากาศ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความริเริ่มที่จะช่วยยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

สำหรับวอลโวนั้นมีเป้าหมายผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 อยู่แล้ว

อังกฤษซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม COP26 เผยด้วยว่า ขณะนี้มีอีก 4 ประเทศ ซึ่งรวมถึงนิวซีแลนด์และโปแลนด์ รับปากจะกำหนดให้รถยนต์และรถตู้ออกใหม่ทุกคันต้องปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2040 หรือเร็วกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม การที่จีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดของโลก และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และตลาดรถยนต์เบอร์ 2 รองจากจีน ยังปฏิเสธที่จะร่วมในคำสัญญานี้ ก็ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่ามันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายยังไม่มั่นใจที่จะรับปาก เนื่องจากต้นทุนในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีค่อนข้างสูง ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศก็ยังไม่รับรองว่าจะมีโครงข่ายไฟฟ้าและสถานีชาร์จไฟที่เพียงพอสำหรับการปรับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่

ค่ายรถอื่นๆ ที่ปฏิเสธเข้าร่วมพันธสัญญานี้ยังรวมถึงสเตลแลนติส (Stellantis) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ Groupe PSA และ FCA Group, ฮอนด้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์, บีเอ็มดับเบิลยู และ ฮุนได มอเตอร์

กลุ่มรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม เผยว่า ธุรกิจเชื้อเพลิงจากฟอสซิล หรือน้ำมันและก๊าซ ส่งคนเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 มากที่สุด มากกว่าตัวแทนจากประเทศใดประเทศหนึ่งด้วยซ้ำ

กลุ่มรณรงค์ที่นำโดยโกลบอลวิทเนสส์ (Global Witness) ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 หรือ COP26 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-12 พฤศจิกายน ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ พบว่า มี 503 รายชื่อที่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล และทำหน้าที่วิ่งเต้นให้ธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งถือว่ามากกว่าตัวแทนของทุกประเทศและหน่วยงานหรือองค์กรที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ 

พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อห้ามคนเหล่านี้เข้าร่วมประชุม เพราะอิทธิพลของธุรกิจดังกล่าว คือ เหตุผลใหญ่อย่างหนึ่งที่ทำให้การเจรจาของ UN ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างแท้จริง

ส่วนสำนักข่าว BBC ระบุว่า การประชุม COP26 มีผู้เข้าร่วมประมาณ 40,000 คน โดยบราซิลส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมมากที่สุด 479 คน แต่ก็ยังน้อยกว่าตัวแทนของธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ขณะที่สหราชอาณาจักรในฐานะเจ้าภาพ ส่งคณะผู้แทนเข้าร่วม 230 คน 

โกลบอลวิทเนสส์ ยังพบว่า ตัวแทนของกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นสมาชิกของตัวแทนจากสองประเทศ คือ รัสเซียและแคนาดา และมีตัวแทนบริษัทที่ทำธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลมากกว่า 100 บริษัทเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ รวมถึงมีตัวแทนของสมาคมซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจกนานาชาติ หรือ IETA เข้าร่วมถึง 103 คน 

ที่มา : รอยเตอร์ส, TNN World
อ้างอิง : https://www.caranddriver.com/news/a38213848/automakers-pledge-end-gas-sales-2040/
https://www.asahi.com/ajw/articles/14478865

ติดต่อโฆษณา!