28 มีนาคม 2564
16,814

5 ทักษะเด็ด ที่นักการตลาดยุคใหม่ต้องมี ‼️

5 ทักษะเด็ด ที่นักการตลาดยุคใหม่ต้องมี ‼️
Highlight

เทรนด์โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าไม่เริ่มเปลี่ยนตัวเองวันนี้ เราจะยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นเกมส์การตลาดที่ดุเดือดนี้อยู่หรือเปล่า ?


มาเรียนรู้ 5 ทักษะของนักการตลาดยุคใหม่ต้องมี 

1. การเข้าใจลูกค้าในเชิงของความรู้สึกและอารมณ์  
ต้องยอมรับว่า AI นั้นสามารถรับเซ็ตข้อมูลได้เยอะกว่าคน ซึ่งก็ทำให้มันมีความสามารถที่หลากหลาย และทำได้แม่นยำกว่า สามารถให้คำตอบได้ว่าแบบไหนคือแบบที่ลูกค้าตอบสนองได้ดีที่สุด  
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลดิบที่ได้มาจะทำให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและสร้างลูกค้าได้มากที่สุดเสมอไป 

การพัฒนา Soft Skills อย่าง การสื่อสาร การทำความเข้าใจลูกค้า ความคิดสร้างสรรค์ หรือการเล่าเรื่อง ถือว่าสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่า Hard Skills อื่นๆ เช่น การยิงโฆษณา หรือการวัดผล เพราะสิ่งนี้เป็นหัวใจที่ทำให้องค์กรของเรามีสิ่งที่เรียกว่า Customer-centric mindset (ความคิดที่ให้เข้าใจลูกค้า) ได้ดีที่สุด

2. Data Analytic
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้เราไม่สามารถนำประสบการณ์เดิมๆ มาใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันได้อีก

การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล หรือ Data Analytic จึงเป็นอีกทักษะสำคัญสำหรับคนทำธุรกิจในตอนนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลที่รู้ว่าเซ็ทข้อมูลไหนสำคัญหรือไม่สำคัญ และข้อมูลไหนจะส่งผลกับผลลัพธ์ที่คุณต้องการมากที่สุด

ทักษะนี้จะช่วยให้เข้าใจลูกค้าและสามารถวางจุดยืนองค์กร พร้อมกับทำการตลาดได้อย่างชัดเจนและเข้าถึงลูกค้าได้ตรงใจมากขึ้น

3. สร้างสรรค์ข้อความหรือเนื้อหา (Content Marketing)
ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายตรงใจกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าคลิกเข้ามาเยี่ยมชมและจบที่การตัดสินใจซื้อ

Content Marketing กลายเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่สำหรับนักการตลาด เพราะมันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน

“Content Marketing มีต้นทุนการทำต่ำกว่าการตลาดรูปแบบเดิมถึง 62 % และสามารถสร้างคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า (Leads) ได้มากกว่าถึง 3 เท่า”
และมีแนวโน้มว่าจะยิ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต 

4. ระวังตัวอยู่เสมอ รีบ Disrupt ตัวเองก่อน
ในยุคที่มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ต้องดูว่ามีอะไรที่จะเข้ามา Disrupt หรือเปล่า หากมีแน่ๆ เราต้องรีบ Disrupt ตัวเอง ไม่ใช่การจัดทำขึ้นก่อนหรือแข่ง แต่อาจจะเป็นในมุมของการนำมาใช้ก็ได้

ต้องตั้งคำถามอย่างสม่ำเสมอ แล้วถ้าเป็นไปได้ ให้ Disrupt ตัวเองก่อนถูก Disrupt และพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

5. ความคิดแบบ Growth Mindset
ความคิดแบบ Growth Mindset คือ การเชื่อว่าคุณสามารถเพิ่มทักษะหรือคุณค่าให้กับตัวเองได้ด้วยการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ รวมถึงการมีนิสัยเป็นคนช่างสงสัย รักในการทดลอง ชอบการเรียนรู้ และไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่

ลองยกตัวอย่าง 
เราอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital marketing และการสร้างเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ แต่เราไม่เคยทำมาก่อนและคิดว่าคงไม่ชอบในเรียนรู้ที่จะทำมัน ความแตกต่างที่คนทั้ง 2 ประเภทจะเลือกทำคือ
20210328-a-1.jpg
1. Fixed Mindset : จะคิดว่าถ้ารู้สึกว่าจะไม่ชอบ ก็จะไม่ทำ เพราะความรู้เดิมที่มีอยู่ก็เพียงพออยู่แล้ว
2. Growth Mindset : หาวิธีเรียนรู้ที่ทำให้สนุกไปกับมัน หรืออาจจะแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมงในการเรียนรู้เพื่อให้เราสามารถพัฒนาทักษะไปได้วันละนิด ไม่น่าเบื่อ

ปิดท้ายกันด้วย 
ปรัชญาชีวิตจาก ฟิลิป คอตเลอร์ [ต้นแบบในตำนานของการตลาดสมัยใหม่]
ที่อยากส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ คือ 
 
▪ ให้ทำตามสัญชาตญาณของคุณ ไม่ควรโฟกัสที่งานและสิ่งที่ให้เงินคุณเยอะๆ เพียงอย่างเดียว 
▪ การให้คือการได้รับที่ดีที่สุด ที่สุดแล้วไม่ใช่แค่ความพอใจส่วนตัวอย่างเดียว สุดท้ายแล้วเราก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืนมา 

เลิกคิดแต่ Profit ให้ใส่ใจ People และ Planet ...ประโยคที่ได้ใจนักการตลาดยุคใหม่ อย่างแน่นอน

ติดต่อโฆษณา!