แบงค์ชาติคาดจีดีพี ปีหน้าอาจพลาดเป้า ผลกระทบจาก”โอไมครอน” ทำนักท่องเที่ยวหาย
Highlight
แบ็งค์ชาติหวั่น “โอไมครอน” กระทบอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีหน้าพลาดเป้า โดยคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวอาจลดลงมาก หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตวัคซีนโมเดอน่า ยืนยันว่าจะสามารถพัฒนาวัคซีนออกมาใช้ได้ในปีหน้า ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มยกเลิกทริป เนื่องจากวิตกการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน
ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวใน งานเสวนา หัวข้อ : มองเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางโควิด - Thailand Economic Outlook 2022 อนาคตเศรษฐกิจไทย เมื่อ 29 พ.ย. นี้ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญแรงเหวี่ยงใหม่ หลังจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ ที่ชื่อว่า "โอไมครอน" ทำให้หลายประเทศ กลับมาสู่การล็อกดาวน์ - ปิดประเทศอีกครั้ง
ดร.ดอน คาดว่าการระบาดของ โอไมครอน จะกระทบอัตราการเติบโตของเศรษฐไทยในไตรมาสที่ 4/2564 และ ปี 2565 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ธปท. ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่า การเติบโตของ จีดีพี อาจจะสูงถึง 3.9% หรืออาจแตะระดับ 5% ภายใต้สมมุติฐานมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 10 ล้านคน
ทั้งนี้ จากปัจจัยเสี่ยงใหม่ "โอไมครอน" คาดน่าจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวข้างต้น กังวลอาจมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ไม่ถึง 6 ล้านคน ซึ่งปลายเดือน ธันวาคมนี้ ธปท. จะมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง โดยนำปัจจัย โอไมครอน มาพิจารณาร่วมด้วย หลังจากคาดว่า จะทำให้หลายประเทศหันมาปิดประเทศอีกครั้ง
สถานการณ์ของไวรัสพันธุ์ใหม่โอไมครอนยังไม่นิ่ง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาประเมินถึงปัจจัยหลายด้าน ซึ่งผลกระทบอาจจะไม่ใช่แต่จำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ต้องติดตามผลกระทบจากมาตรการของแต่ละประเทศ เช่น การกลับมาปิดประเทศ การล็อคดาวน์แบบเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นหรือไม่ทำให้ไทยเองมีความกังวล เนื่องจากจีดีพีปีนี้ โตได้จากภาคส่งออกเท่านั้น
แต่หากปีหน้า การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นอาจกระทบทั้งภาคการท่องเที่ยวและส่งออก และหากสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ธปท.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแค่ 1-2 ล้านคน จะส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา อย่างไรก็ตามพบว่าระบบธนาคารพาณิชย์ยังมั่นคง แข็งแกร่ง
ดร.ดอน กล่าวว่า ไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวมากถึง 20% ของจีดีพีถ้าหากมีผลกระทบจากส่วนนี้จะทำให้การเติบโตชะงักไปอีก
หากนักท่องเที่ยวหายไป ประเมิน เศรษฐกิจไทยอาจใช้เวลาหลายปีในการฟื้นตัวกลับมา และภาครัฐจำเป็นต้องหา New S Curve หรือ ตัวผลักดันเศรษฐกิจใหม่ๆ ในระยะยาว ทดแทนการท่องเที่ยว เช่น การให้ความสำคัญกับการลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและศักยภาพของประเทศไทยในอนาคตได้
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวยกเลิกทริป
บริษัททัวร์หลายแห่งเผยว่า นักท่องเที่ยวพิจารณาขอยกเลิกหรือเลื่อนทริปเดินทางออกไป หลังประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการจำกัดการเดินทางล่าสุดเพื่อสกัดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกที่มีความเปราะบางอยู่ก่อนแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอฟริกาใต้ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่มีการค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนั้น คิดเป็นอัตราส่วนเพียงเล็กน้อยของการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อิสราเอลกับญี่ปุ่นประกาศปิดพรมแดน ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศ ส่วนอังกฤษกับออสเตรเลียก็ออกมาตรการคุมเข้มผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนเพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์ใหม่
นายเจเรไมอา หว่อง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดแห่งบริษัททัวร์ท่องเที่ยว ชาน บราเธอร์ส ทราเวล ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ลูกค้าบางรายกังวลเรื่องมาตรการการเดินทาง และได้โทรมาสอบถามตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับทริปไปออสเตรเลียที่จะถึงนี้ เนื่องจากมีมาตรการกักตัวแบบใหม่
โฆษกของบริษัทสกายไลน์ ทราเวล ของสิงคโปร์ ซึ่งขายแพคเกจทัวร์ไปยุโรปและเกาหลีใต้ กล่าวว่า ทางบริษัทกังวลถึงสถานการณ์ดังกล่าวแม้ขณะนี้จะยังไม่มีลูกค้ามาขอยกเลิกทริปก็ตาม
โมเดอร์นาเผยวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” พร้อมจำหน่ายเร็วสุดต้นปีหน้า
ดร.พอล เบอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการแพทย์ของโมเดอร์นา ประกาศว่า บริษัทจะสามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรปรับปรุงใหม่เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างเร็วที่สุดภายในต้นปีหน้า
“ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ เราน่าจะได้ทราบถึงระดับประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีในปัจจุบันในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่จุดเด่นประการหนึ่งของวัคซีนประเภท mRNA และแพลตฟอร์มของโมเดอร์นาก็คือเราสามารถพัฒนาวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว”
นายเบอร์ตันให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC พร้อมกล่าวเสริมว่า “หากต้องพัฒนาวัคซีนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ผมคาดว่าวัคซีนโมเดอร์นาจะพร้อมจำหน่ายในปริมาณมากได้ภายในช่วงต้นปีหน้า”
ทั้งนี้ นายเบอร์ตันระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีในปัจจุบันสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ระดับหนึ่ง โดยประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผ่านไปหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ดี เขาได้ให้คำแนะนำว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยด่วน หรือเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์หากมีสิทธิ์ได้รับ
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศในวันศุกร์ (26 พ.ย.) ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้นั้น เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก และอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากมีการกลายพันธุ์จำนวนมาก โดยเฉพาะใน 30 ตำแหน่งของสไปค์โปรตีน (Spike Protein) จึงทำให้สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้