30 พฤศจิกายน 2564
2,302
ยอดผลิตรถยนต์โตโยต้าร่วงหนัก หลังทั่วโลกขาดแคลนชิป
Highlight
หนึ่งในผลพวงของการระบาดของโควิดที่กระทบทั่วโลก คือการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะบรรดาชิปคอมพิวเตอร์ต่างๆ ประกอบกับการพัฒนาของเทคโนโลยีเช่น รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ความต้องการใช้ชิปเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ทั่วโลกตอนนี้ประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนัก จนหลายธุรกิจได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่โตโยต้า ที่ยอดผลิตรถยนต์เดือนตุลาคม หายไปกว่า 25%
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าในเดือนต.ค.ปรับตัวลง 25.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 627,452 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่สาม เนื่องจากปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาด
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ยอดการจัดส่งรถยนต์ของโตโยต้าต้องเลื่อนออกไป และส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าร่วงลง 20.1% แตะที่ 677,564 คัน
โดยนอกจากปัญหาชิปขาดตลาดแล้ว ทางบริษัทยังเผชิญปัญหาชิ้นส่วนรถยนต์ขาดแคลน เนื่องจากโรงงานผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่งต้องระงับการผลิตชั่วคราว อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม โตโยต้าคาดว่า ยอดการผลิตรถยนต์จะดีดตัวขึ้นมาแตะที่ 850,000-900,000 คันในเดือนพ.ย. เนื่องจากหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด-19 ส่วนในเดือนธ.ค.คาดว่ายอดการผลิตจะอยู่ที่ราว 800,000 คัน
ส่วนตลอดปีงบการเงิน 2564 โตโยต้าคาดการณ์ว่าจะผลิตรถยนต์ได้ราว 9 ล้านคันทั่วโลก ลดลงจากแผนการในขั้นต้นที่ 9.3 ล้านคัน
สำหรับในญี่ปุ่นนั้น ตัวเลขการผลิตเดือนต.ค.ทรุดตัวลง 50.9% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 151,918 คัน ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม
ส่วนยอดขายซึ่งรวมถึงรถยนต์ขนาดเล็กที่ผลิตโดยไดฮัทสุ มอเตอร์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโตโยต้านั้น ร่วงลง 41.3% แตะที่ 84,705 คัน