คลังอยู่ระหว่างประเมิน “คนละครึ่งเฟส 5” จะไปต่อหรือไม่
Highlight
มาตรการคนละครึ่ง เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลชุดนี้ประสบความสำเร็จ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินว่าจะต่อในเฟสที่ 5 หรือไม่ ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้นำเสนอต่อที่ประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังและรองผู้ว่าการธนาคารเอเปค ระบุสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยเหลือประชาชน และได้รับการตอบรับโครงการนี้เป็นอย่างดี
ปลัดคลังเผย อยู่ระหว่างประเมิน”คนละครึ่งเฟส 5” ระบุ มาตรการดังกล่าวยังเป็นมาตรการจำเป็นที่รัฐบาลนำมาใช้ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะไม่ปกติ เผยอยู่ระหว่างประเมินชี้คนไทย 50-60 ล้านคน ได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีพื้นฐานมากขึ้นจากมาตรการดังกล่าว
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะต้องประเมินว่า จะต่ออายุมาตรการคนละครึ่งในเฟสที่ 5 หรือไม่ โดยรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในระยะต่อไปก่อน ซึ่งขณะนี้ มาตรการคนละครึ่งก็คงดำเนินการในเฟสที่ 4 อยู่
“ขณะนี้ เศรษฐกิจอยู่ในช่วงที่ไม่ปกติ ฉะนั้น ภาครัฐก็ต้องเป็นพระเอกในการเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ เราก็ต้องชะลอความช่วยเหลือ ฉะนั้น เมื่อถามว่า เรายังจำเป็นต้องใช้มาตรการคนละครึ่งต่อไปอีกหรือไม่ ก็คงต้องดูในระยะต่อไป เพราะวันนี้ เรายังทำโครงการนี้อยู่”
นายกฤษฎากล่าวด้วยว่า มาตรการคนละครึ่ง ถือเป็นช่องทางที่กระทรวงการคลังทำได้ดี และรัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน เพราะเป็นมาตรการที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ในภาพรวม ขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้คนไทยกว่า 50-60 ล้านคน มีความรู้และเชี่ยวชาญเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น
“ขณะนี้ คนไทยกว่า 50-60 ล้านคน ถือว่า มีพื้นฐานที่ดีทางด้านเทคโนโลยีและคนกลุ่มนี้ก็จะมีภาวะการเติบโตในเรื่องดังกล่าวในอนาคต ก็ถือว่า โครงการคนละครึ่งนั้น เป็นช่องทางที่ดี แต่ไม่ใช่ว่า เราต้องทำโครงการดังกล่าวตลอดไป”นายกฤษฎากล่าว
ทั้งนี้ มาตรการคนละครึ่งนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงการคลังได้นำเสนอต่อที่ประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังและรองผู้ว่าการธนาคารเอเปค โดยเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลและเป็นมาตรการที่ได้ใช้ในการช่วยเหลือประชาชน
วันนี้ (18 มี.ค.65) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4
จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 17 มีนาคม 2565 ณ เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 40.85 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 61,284.74 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.34 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 5,089.02 ล้านบาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.26 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 446.12 ล้านบาท
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มเดิมฯ) จำนวน 25.46 ล้านราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 54,312.3 ล้านบาท
และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มใหม่ฯ) จำนวน 7.93 แสนราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1,437.3 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 26.25 ล้านราย และยอดการใช้จ่ายรวม 55,749.6 ล้านบาท
แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 28,352.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 27,397.4 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 23,300.3 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 9,557.7 ล้านบาท ร้าน OTOP 2,497.2 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 19,301.9 ล้านบาท ร้านบริการ 988.4 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 104.1 ล้านบาท
สำหรับประชาชนที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 26.38 ล้านราย เป็นประชาชนกลุ่มเดิมฯ ที่กดยืนยันสิทธิและมีการใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 25.46 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และในส่วนของผู้ประกอบการ มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 1.35 ล้านรายโดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.78 หมื่นราย
สำหรับข้อมูลการใช้จ่ายสะสมผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีการใช้จ่ายสะสม 1,645.1 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 854.1 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 791.0 ล้านบาท และในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม มีจำนวน 9.33 หมื่นราย
ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวข้างต้น ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายใหม่ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่าน www.คนละครึ่ง.com หรือติดต่อเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในพื้นที่หรือสาขาธนาคารกรุงไทยฯ ได้อย่างต่อเนื่องจนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัคร
ที่มา : กระทรวงการคลัง, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, BangkokBiz