AIS ทุ่ม 3.24 หมื่นล้านบาท ซื้อกิจการ 3BB และ หน่วยลงทุน JASIF
Highlight
AIS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมซื้อกิจการ 3BB ถือหุ้น 99.87% และหน่วยลงทุน JASIF 19% มูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท พร้อมขออนุญาต กสทช. ก่อนลงนามซื้อ
การลงทุนครั้งนี้ทำให้ AIS มีลูกค้าเน็ตบ้านเมื่อรวมลูกค้าจาก 3BB แล้วอยู่ที่ 4.28 ล้านราย ยังเป็นที่ 2 รองจาก TRUE ที่ 4.7 ล้านราย AIS คาดการควบรวมเสร็จสิ้นราวไตรมาส 1 ของปี 2023 นักวิเคราะห์มองการเข้าซื้อ 3BB ส่งผลบวกต่อ AIS เสริมความแกร่งสู้ TRUE ผนวก DTAC
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2565 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC (AIS) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติให้ บริษัท แอดวานซ์ ไวน์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯถือหุ้นร้อยละ 99.99 และ/หรือบุคคล ที่ AWN กำหนด ดำเนินการ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) จำนวน 7,529,242,385 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อย 99.87 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ TTTBB
จากบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด (ACU) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (JAS) ซึ่งรวมถึงการได้มาซึ่งบริษัทย่อยของ TTTBB อีกสองบริษัท คือ บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด และบริษัท อิล คลาวน์ จำกัด และการได้มาซึ่งบริษัท ทรี บีบี จำกัด ตามเงื่อนไขบังคับก่อน คิดเป็นมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท
รวมถึงเข้าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) จาก JAS จำนวน 1,520 ล้านหน่วย คิดเป็นสัดส่วยร้อยละ 19 ของจำนวนลงทุนทั้งหมดของ JASIF ในหน่วยละ 8.5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาท โดยรวมเรียกทั้งสองธุรกรรมว่า ธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุน มีมูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท
โดย AWN ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ ACU และ JAS เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 เพื่อซื้อหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF ซึ่ง AWN จะทำการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น และหน่วยลงทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มเติม จึงมีแผนที่จะใช้เงินกู้ยืมสำหรับธุรกรรมในครั้งนี้ รวมถึงยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของกำไรรวมสุทธิ
นักวิเคราะห์มองดีลเป็นบวกต่อ AIS
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า เป็นบวกกับข่าวนี้ต่อทั้งอุตสาหกรรมบรอดแบนด์, ADVANC และ JASIF ในระยะยาวดังนี้
การแข่งขันในอุตสาหกรรมบรอดแบนด์น่าจะลดความรุนแรงลง โดยเฉพาะด้านการใช้กลยุทธ์การตัดราคา เพราะการเข้าซื้อ TTTBB จะทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมที่ลดลงไป
บล.เอเชียพลัส คาดดีลนี้ส่งผลดีต่อ ADVANC เพราะปี 2564 ที่ผ่านมา TTTBB มีกำไรจากการ ดำเนินงานราว 1.6 พันล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ ADVANC อาจขายสินทรัพย์
ในส่วนที่เป็นอุปกรณ์โครงข่ายบรอดแบนด์ของตนเองที่มีอยู่แล้ว เข้ากอง JASIF ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็น upside ในอนาคตต่อ ADVANC
สำหรับ JASIF จะมีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากผู้เช่าใหม่คือ กลุ่ม ADVANC ที่มีผลการ ดำเนินงานและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่ม JAS ที่เป็นผู้เช่าเดิม
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองดีลที่บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ Jasmine International (JAS) TTTBB คิดเป็น 99.87% ให้กับบริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ AIS คิดเป็นมูลค่า 19,500 ล้านบาท และขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ในสัดส่วน 19% ในราคาหน่วยละ 8.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 12,920 ล้านบาทนั้น
ฝ่ายวิจัย มีมุมมองเป็นบวกต่อ JAS ในธุรกรรมครั้งนี้ เนื่องจากคาดว่า JAS จะได้เงินจากการขายหุ้น TTTBB และคาดว่าจะบันทึกกำรจากการขายราว 11,000 ล้านบาท (หักภาษี) หรือคิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น 1.30 บาท และคาดว่า JAS มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษบางส่วน ในเบื้องต้นประเมินจากเงินสดหลังหักหนี้สถาบันการเงินและค่าใช้จ่ายอื่นๆ คาดว่า JAS จะจ่ายเงินปันผลราว 0.50-0.60 บาท (yield 14%-17%)
อย่างไรก็ตามก็มีมุมมองเป็นลบระยะสั้นต่อ JASIF จากธุรกรรมครั้งนี้ เนื่องจากราคาซื้อหน่วยลงทุนที่ 8.50 บาทต่ำกว่าราคาตลาดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 ราว -11% และยังมีเงื่อนไขหาก JASIF จ่ายเงินปันผลหลังจากวันที่ 31 ธ.ค.2565 ถึงวันที่สัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุนเสร็จสมบูรณ์ และผู้ซื้อไม่มีสิทธิในการได้รับเงินปันผลดังกล่าว มูลค่าเงินปันผลดังกล่าวจถูกนำมาหักออกจากราคาซื้อหน่วยลงทุน
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัย คาดว่าไตรมาส 4/65 JASIF จะจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.24-0.25 บาท ทำให้ราคาซื้อหน่วยลงทุน JASIF คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8.25 บาท และการเสนอซื้อหน่วยลงทุน JASIF และอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญาหลัก จะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐาน JASIF
ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดคำแนะนำในหุ้น JAS จากเดิมแนะนำซื้อ เป็น Neutral เพื่อรอความชัดเจนการแก้ไขสัญญาเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากดูตัวเลขล่าสุดจาก กสทช. รายงานสภาพตลาดโทรคมนาคม ไตรมาส 3/2564 พบว่าตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในไทย มีผู้เล่นรายใหญ่ 4 ราย โดยมีส่วนแบ่งตลาดดังนี้
1. TRUE (TICC) มีส่วนแบ่งตลาด 35.57%
2. 3BB มีส่วนแบ่งตลาด28.57%
3. TOT/NT มีส่วนแบ่งตลาด 19.92%
4. AIS Fibre (AWN) มีส่วนแบ่งตลาด 13.09%
ตลาดเติบโตขึ้นตามลำดับจาการ Work from Hone ช่วงโควิด-19ระบาดหนักปี 2563-2564
บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AIS ก่อตั้งเมื่อ 2 กันยายน 2548 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,350,000,000 บาท ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภท โดยมีคณะกรรมการ 11 คน
1. นายกานต์ ตระกูลฮุน
2. นายแอเลน ลิว ยง เคียง
3. นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์
4. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย
5. นายสุรศักดิ์ วาจาสิทธิ์
6. นางสาวจีน โล เงี้ยบ จง
7. นายเฆราร์โด ซิงโก อบลาซา จูเนียร์
8. นายสารัชถ์ รัตนาวะดี
9. นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์
10. นายสมิทธ์ พนมยงค์
11. นายอาเธอร์ หลาน เต้า อี้
สำหรับผลประกอบการ ในปี 2564 รายได้รวมอยู่ที่ 167,805,708,184 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.96% รายจ่ายรวม 146,634,591,413 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.52% ขณะที่กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 13,933,271,042 ลดลงจากปีก่อน 6.63%
บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (มหาชน)
บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (มหาชน) หรือ 3BB ก่อตั้งเมื่อ 30 สิหาคม 2548 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 110,000,000 บาท จากนั้นในปี 4 กันยายน 2550 ได้แปรสภาพพร้อม เพิ่มทุนจดทะเบียน เป็น 9,250,000,000 บาท ให้บริการสื่อสารและโทรคมนาคม โดยมีคณะกรรมการ 7 คน
1. นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล
2. นางสาวจงรัก โรจนวิภาต
3. นายวสุ ประสานเนตร
4. นายอนุพงษ์ โพธารามิก
5. นายสมบุญ พัชรโสภาคย์
6. นายยอดชาย อัศวธงชัย
7. นายกิตติพงษ์ วัฒนกุลเจริญ
ขณะที่ ผลประกอบการล่าสุดในปี 2564 รายได้รวมอยู่ที่ 16,362,151,245 บาท ลดลงจากปีก่อน 0.13% รายจ่ายรวม 15,191,481,345 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.23% ขณะที่ขาดทุนสุทธิ 1,957,438,378 บาท เพิ่มจากปีก่อน 20.73%
โดยข้อมูล ณ ไตรมาส 1/2565 ทรู ออนไลน์ มีฐานลูกค้า 4.7 ล้าน 3BB มีลูกค้า 3.6 ล้านราย เอไอเอส ไฟเบอร์มีลูกค้า 1.8 ล้านราย