ไต้หวันไม่กลัวจีน เผยสหรัฐฯ พร้อมหนุนอาวุธ ด้านนักลงทุน หวั่นความขัดแย้งใกล้ถึงจุดอันตราย
Highlight
ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ไต้หวันไม่สนคำขู่จากจีน ยังคงเดินหน้าสานสัมพันธ์ใกล้ชิดสหรัฐฯ ไม่หวั่นหากมีสงครามพร้อมต่อสู่ และกล่าวว่าไต้หวันมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยี ในขณะที่ เรย์ เดลิโอ นักลงทุนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ระดับโลกเตือนถึงความเสี่ยงและโอกาสจะเกิดสงครามเข้ามาใกล้มากขึ้น Nikkei Asia ระบุหากสหรัฐฯ ยุโรป คว่ำบาตรจีน ส่งผลกระทบมูลค่าของเศรษฐกิจโลกจะหายไปราว 2.61 ล้านล้านดอลลาร์ ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอยู่แล้วในปัจจุบัน
ไต้หวันมุ่งมั่นที่จะปกป้องตัวเองและผู้บุกรุกจะได้รับบทเรียนราคาแพง ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินกล่าวเมื่อวันอังคารที่ 23 ส.ค. ในวันครบรอบการเผชิญหน้าร่วม 6 ทศวรรษระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งในครั้งนั้นกองกำลังไต้หวันเอาชนะผู้โจมตีจากจีนได้สำเร็จ
ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากการเยือนไทเปโดยประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เปโลซี ในขณะที่จีนจัดฉากสงครามซ้อมรบใกล้กับไต้หวันเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อความสัมพันธ์ของสหรัฐและไต้หวันในขณะรัฐบาลปักกิ่งมองว่าเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งดินแดนอธิปไตยของจีน
สำนักงานประธานาธิบดีไต้หวันอ้างคำพูดของนางไช่ กล่าวว่า การต่อสู้ครั้งนี้เพื่อปกป้องไต้หวันและทำให้ทั่วโลกรู้ว่า ไม่มีภัยคุกคามใดสามารถสั่นครอนความตั้งใจชาวไต้หวันปกป้องดินแดนของพวกเราได้
“จีนจะต้องจ่ายเงินจำนวนมาก หากบุกรุกหรือพยายามรุกรานไต้หวัน และยังต้องถูกประณามจากประชาคมโลกอีกด้วย” นางไช่กล่าว
ระบุและกล่าวว่า เมื่อ 64 ปีที่แล้วระหว่างการสู้รบระหว่างไต้หวันกับจีนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม มีทหารและพลเรือนของไต้หวันปฏิบัติการด้วยน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อปกป้องไต้หวัน เพื่อให้เรามีไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นางไช่แสดงความมั่นใจว่า ปัจจุบัน ไต้หวันจะต่อสู้ด้วยการสนับสนุนจากสหรัฐ ซึ่งส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานขั้นสูง Sidewinder ทำให้ไต้หวันมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยี
ด้าน เรย์ เดลิโอ (Ray Dalio) ผู้บริหารบริษัท Bridgewater Associates เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่สุดของโลกปัจจุบันรับบริหารเงินมากกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ กล่าวเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน ไต้หวันถึงจุดที่อันตรายมาก ๆ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามครั้งใหญ่
ความขัดแย้งจะส่งผลกระทบทั่วโลกรุนแรงมากกว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากเป็นความขัดแย้งระหว่างขั้วมหาอำนาจโลกที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าและมีความเชื่อมโยงกับโลกมากกว่า
นิคเคอิ เอเชีย เปิดเผยว่า หากสหรัฐฯ และพันธมิตร เคลื่อนไหวไปสู่การคว่ำบาตร เศรษฐกิจจีนการส่งออกและนำเข้าของจีนหยุดชะงัก เพราะถูกคว่ำบาตรจากประเทศพันธมิตรชาติตะวันตก รายได้ของจีนจากต่างประเทศจะหายไป และการนำเข้าสินค้าสำคัญจะชะงักงัน
ปัจจุบันจีนต้องนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ สูงถึง 30% หากมีปัญหาการกีดกันทางการค้าจะทำให้ประชาชนจีนเกิดวิกฤตทางอาหารและน้ำมันพืช รวมทั้งอาหารสัตว์ เช่น หมู
นอกจากนี้มูลค่าของเศรษฐกิจโลกจะหายไปราว 2.61 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3% ของ GDP โลก โดยประเทศจีนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่ารัสเซียถึง 10 เท่า ขณะเดียวกันจีนยังมีมูลค่าการค้ารวมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
อ้างอิง