โผล่อีกราย P Miner หลอกลวงลงทุนคริปโท เสียหายกว่า 1.7 พันล้านบาท หนีลอยนวล

โผล่อีกราย P Miner หลอกลวงลงทุนคริปโท เสียหายกว่า 1.7 พันล้านบาท หนีลอยนวล
Highlight

คดีหลอกลวงลงทุนรวมทั้งแชร์ลูกโซ่ Forex หลายๆคดีรวมกันในช่วงนี้มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ล่าสุด โผล่อีกราย ตำรวจบุกยึดทรัพย์ เป้ กิติกร อินต๊ะ เจ้าของ P miner Cryptocurrency เชียงใหม่ หลอกลงทุนคริปโตก่อนวงแตกเสียหาย 1,700 ล้านบาท เจ้าหน้าที่บุกบ้านเจอรถหรูแลมโบกินี่ ตอนนี้เจ้าตัวหนีหาย คาดหนีไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจตั้งค่าเบาะแส 50,000 บาท ด้านนัตตี้โกงเทรดหุ้นมูลค่า นักลงทุนลงขันนำจับกว่า 1 ล้านบาท ส่วนคดี Forex-3D พิ้งกี้ ดาราสาวถูกคุมขัง เป็นเวลา 13 วันแล้ว ปรับตัวเข้าสภาพแวดล้อมใหม่ได้ ไม่เครียด



ตำรวจและ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์ เป้ กิติกร อินต๊ะ  เจ้าของ P Miner Cryptocurrency ในวันนี้ (30 ส.ค.65) หลังจากที่มีคนเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกลงทุนคริปโต คาดว่ามีความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้เสียหายได้รวมตัวนำหลักฐานมาแจ้งความที่ดีเอสไอ เชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า นายเป้ได้เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลถงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโต ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน

ก่อนหน้านี้ เป้ได้ออกมาแถลงผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ การขุดเหรียญต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ทางบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ซึ่งสัญญาว่ามีแนวทางแก้ปัญหาคือ

ให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา บริษัทจะยังขุดเหรียญตามปกติ และใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และนำรายได้แต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน ทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญต่อไป

เป้ได้ทิ้งท้ายว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว ขอร้องนักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเอง ตนก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบบริษัท และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเอง

ทั้งนี้ เมื่อสำรวจในเฟซบุ๊กของเป้ จะเห็นว่า เจ้าตัวใช้ชีวิตอย่างหรูหรา มีรถยนต์หรูอย่างแลมโบกินี่ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เฟอร์รารี่ จอดอยู่หน้าบ้านใหม่ และมีการแจ้งเตือนไม่ให้คนอื่น ๆ ฟ้องตำรวจถึงธุรกิจคริปโต ในขณะที่โพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊กของเป้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ระบุไว้ชัดเจนว่า ตนต้องการที่จะขายรถยนต์เฟอร์รารี่ แลมโบกินี่ และเบนท์ลีย์ เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ ในขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้ประกาศตั้งค่าหัว 50,000 บาท ให้คนที่แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม เป้ โดยตอนนี้คาดว่า เป้น่าจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

นัตตี้โกงพันล้าน

เมื่อเร็วๆ ก็ มีรายงานว่า จากกรณียูทูบเบอร์สาวรายหนึ่งได้ผันตัวมาชวนคนนำเงินไปลงทุนเทรดหุ้น โดยอ้างว่าจะให้ผลกำไรทุกเดือน แต่ระยะหลังพบว่าไม่มีการโอนเงินคืน ทำให้เกิดแฮชแท็ก #นัตตี้โกงเทรดพันล้าน มีผู้เสียหายออกมาเรียกร้องจำนวนหลายราย โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายหลัก 2 พันล้านบาท

โดยล่าสุดมีรายงานว่า แฟนเพจ โหลกแดง in the Multiverse of Madness ได้เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้เสียหายได้ประกาศผ่านอินสตาแกรมว่า หากมีใครแจ้งเบาะแสของยูทูบเบอร์สาวรายดังกล่าว จะมีรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท ทำให้หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า ยูทูบเบอร์สาวอาจออกนอกประเทศไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ยูทูบเบอร์สาวรายดังกล่าวออกมาชี้แจงอีกครั้ง

คดี "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ชื่อดังโกงเทรดหุ้น ล่าสุดชาวเน็ตได้ตามขุดประวัติพบเจ้าตัวเคยไปออกรายการดังเผยชีวิตในอดีตครอบครัวร่ำรวยมากและมีเรื่องราวดราม่าไม่ต่างจากละคร ส่วนด้านคดีซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าตัวยังอยู่ในประเทศหรือไม่ แต่ทนายเปิดเผยว่ามีการออกหมายจับแล้ว

สำหรับความคืบหน้า ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์  พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 30 คน ไปร้องเรียนตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นัตตี้ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง หลังถูกหลอกผู้เสียหายประมาณ 6 พันคนลงทุนเทรดหุ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท

ย้อนคดี พิงก์กี้ Forex-3D ถูกจับกุมเข้าเรือนจำทันที

ส่วนคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ยังคงเป็นประเด็น ที่นางเอกดัง พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ตกเป็นผู้ต้องหา และถูกจับดำเนินคดีตั้งแต่ 18 สิงหาคม ยังอยู่ในความสนใจ โดยหลังจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ปรากฎว่าคดีหลอกเงินคนในรูปแบบต่างๆ ก็ค่อยๆ โผล่มาหลายราย วงเงินล้วนสูงเกิน 1 พันล้านบาท

สำหรับพิ้งกี้นั้นเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำก็สามารถปรับตัวใช้ชีวิตในเรือนจำได้ ไม่มีอาการเครียด และเตรียมตัดผมตามกฎระเบียบในวันนี้ 30 สิงหาคม 65 นี้

โดยคดีของพิ้งกี้ โดยสรุปคือพนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้อง นาย "กิตติเชษฐ์ ไชยเดช" พี่ชายของ "พิ้งกี้ สาวิกา" กับ พวกรวม 19 คน ในคดีแชร์ลูกโซ่ "Forex-3D" ในความผิดฐานหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง

ซึ่งในจำนวนนี้ มีชื่อของ "พิ้งกี้ สาวิกา" หรือ "สาวิกา ไชยเดช" รวมทั้ง "แม่อ้อย สรินยา ไชยเดช" คุณแม่ของนางเอกสาว "พิ้งกี้ สาวิกา" ตกเป็นจำเลยที่ 2 โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า "จำเลยกับพวกรวม 19 คน มีเจตนาทุจริตหลอกลวง โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบเว็บ www.forex-3D.com และ แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กในชื่อบัญชี "Apiruk Krub" ,  "Apiruk Kothi" และ "Forex-3D" โดยอ้างว่าจะนำเงินไปซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่าง ๆ (Forex) และ เสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60-80 ของผลกำไรที่ได้ จากการนำไปลงทุนเทรดค่าเงินและประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100

ประกอบกับจำเลยทั้ง 19  ได้อาศัยโอกาสจากการมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของจำเลยทั้ง 19 คน ที่เป็น ดารานักเเสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคลในวงการชั้นสูงหรือไฮโซ และ รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับจำเลยทั้ง 19 ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และ โดยการหลอกลวงดังกล่าว ทำให้ประชาชนผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวง โดยได้ไปทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินรวมผู้เสียหายจำนวน 9,824 คน และมีการกู้ยืมเงินรวมกันมีความเสียหายรวม 2,489,820,321.52บาท  ส่งผลให้ต้องคุมตัว "พิ้งกี้ สาวิกา" และ "แม่อ้อย สรินยา ไชยเดช" โดยไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง ก่อนคุมตัวส่งเข้าทัณฑสถานหญิงกลางทันที" 

เมื่อมีการจับกุมดาราสาว คุณแม่ และพี่ชายเข้าเรือนจำทันที ทำให้เจ้ามือแชร์รายอื่น ทั้งนัตตี้ และ เป้ P Miner ล่องหนหายตัว จนต้องตั้งรางวัลนำจับ


ขอบคุณภาพ : Kapook  Thairath

ติดต่อโฆษณา!