17 กันยายน 2565
1,730
ส่อง..เวียดนามเศรษฐกิจพุ่ง บริษัทระดับโลกแห่ลงทุน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
Highlight
เวียดนามกลายเป็นประเทศที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในนาทีนี้ ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และดึงดูดการลงทุนเพื่อรองรับเป็นฐานการผลิตขอบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สำคัญหนุน ‘Value Chain’ โตระดับโลกได้ดี จากข้อได้เปรียบหลายประการ เช่น มีสถานที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์ มีแรงงานและต้นทุนการผลิตที่สามารถแข่งขันได้ ตลาดผู้บริโภคกำลังเติบโต มีเสถียรภาพทางการเมือง สกุลเงิน และสังคม และมีข้อตกลงการค้าเสรีจำนวนมากซึ่งมีส่วนส่งเสริมการส่งออก
เวียดนามพุ่ง หนุน ‘Value Chain’ โตระดับโลก
มีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่สนใจย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม ล่าสุดโครงการการผลิตจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Foxconn และ Lotte ก็ได้ปักหมุดฐานการผลิตที่เวียดนามแล้ว แสดงให้เห็นว่าเวียดนามกำลังเป็นฐานใหม่ขยายห่วงโซ่คุณค่าให้เติบโตในระดับโลก
ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญอย่างนาย Tim Evans CEO ของ HSBC เวียดนาม ระบุว่าเวียดนามได้พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งว่ามีความสามารถในการเพิ่มระดับของห่วงโซ่คุณค่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนมาถึงจุดที่ประเทศได้เติบโตขึ้นเป็น “ศูนย์กลางการผลิต” ที่สำคัญของสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้จากกรณี Apple ที่เคยมีรายงานข่าวว่าอยู่ระหว่างพิจารณาผลิต Apple Watch และ MacBook ในเวียดนามเป็นครั้งแรก โดยซัพพลายเออร์ได้เริ่มทดสอบการผลิตสินค้าดังกล่าวในภาคเหนือแล้ว
หรืออย่าง Foxconn ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ Apple ก็ได้เช่าที่ดินถึง 50.5 เฮกตาร์ หรือประมาณ 316 ไร่ ในจังหวัด บั๊กซาง (Bac Giang) โดยวางแผนที่จะสร้างโรงงานมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงจะจ้างคนงานมากถึง 30,000 คน
ในขณะที่ Lotte บริษัทใหญ่จากเกาหลีใต้ที่พยายามจะขยายมาสู่เวียดนาม ซึ่งเวียดนามนับเป็นตลาดสำคัญเป็นอันดับ 3 รองจากตลาดในบ้านและญี่ปุ่นอีกทั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Samsung Intel และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ อีกหลายบริษัท ก็ได้ลงทุนจำนวนมหาศาลในเวียดนามและพิจารณาให้เวียดนามเป็นฐานการผลิตสำคัญของบริษัทเช่นกัน
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามยังพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 1.08 แสนดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 คิดเป็น 32% ของการส่งออกทั้งหมด โดย Evans มองว่าเวียดนามมีประสิทธิภาพที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในเรื่องห่วงโซ่อุปทานในระดับโลกได้ โดยจะได้ส่วนแบ่งตลาดโลกในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้า ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายที่ดึงดูดการลงทุน
1. มีสถานที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์
2. มีแรงงานและต้นทุนการผลิตที่สามารถแข่งขันได้
3. ตลาดผู้บริโภคกำลังเติบโต
4. มีเสถียรภาพทางการเมือง สกุลเงิน และสังคม
5. มีข้อตกลงการค้าเสรีจำนวนมากซึ่งมีส่วนส่งเสริมการส่งออก
นอกจากนี้บริษัทข้ามชาติต่างๆ ก็ย้ายฐานการผลิตส่วนหนึ่งจากจีนไปยังเวียดนาม เนื่องจากความเสี่ยงที่จะถูกเก็บภาษีเพื่อลงโทษในอนาคตอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจากจีนมายังเวียดนามพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 สูงขึ้นถึง 245% จากปี 2560 ตามข้อมูลจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา
อย่างไรก็ดี เวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนในปีที่ผ่านมาได้ถึง 3.115 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.2% จากปี 2563 แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และเมื่อเปรียบเทียบ FDI ระหว่างเวียดนามและไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าต่างกัน ตามตาราง
เวียดนามประกาศอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2/ 2565 เติบโตถึง 7% สูงอันดับต้นๆของโลก และเติบโตสวนทางกับหลายประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อในขณะนี้
ที่มา:
Booming foreign investment to push Vietnam up value chain, VnExpress international
รายงานและสถิติการลงทุนจากต่างประเทศ ประจำปี 2560-2564, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
Bangkok Bank