สหรัฐฯ ขู่อาจใช้มาตรการคว่ำบาตรจีนหากรุกรานไต้หวัน เหมือนกับที่รัสเซียรุกรานยูเครน
Highlight
สหรัฐฯ ส่งสัญเตือนจีน หากรุกรานไต้หวันจะเจอการตอบโต้แบบเดียวกับรัสเซียบุกยูเครน ทั้งนี้สัญญาณความตึงเครียดเด่นชัดขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ ส่งนักการเมืองหลายชุดเยือนไต้หวันในปีนี้ พร้อมดึงอียูร่วมกดดัน ในขณะที่ จีนขยับการซ้อมรบบริเวณรอบเกาะไต้หวันถี่ขึ้นพร้อมทั้งโชว์ศักยภาพการพัฒนาขีปวุธความเร็วเหนือเสียงที่ใช้สู้รบทางทะเล โดยสำนักข่าวกรองสหรัฐฯ เผย จีนอาจต้องการยึดครองไต้หวันอย่างสมบูรณ์ภายใน 2027 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในทุกด้าน
สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกในมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อจีน เพื่อหวังขัดขวางไม่ให้เข้ารุกรานไต้หวัน ขณะที่สหภาพยุโรปได้รับแรงกดดันด้านการทูตจากไทเปให้ช่วยหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวของจีนเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการหารือในประเด็นนี้ ที่ให้ข้อมูลว่ามีการเคลื่อนไหวจากฝั่งรัฐบาลวอชิงตันและรัฐบาลไทเปที่ต่างแยกกันวิ่งเต้นกับทางทูตอียู เพื่อผลักดันให้อียูใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อจีนให้มากกว่าเดิม ท่ามกลางความกังวลเรื่องการรุกรานไต้หวันของจีน หลังจากการยกระดับซ้อมรบบริเวณช่องแคบไต้หวันของรัฐบาลปักกิ่ง ขณะที่แหล่งข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตัน กำลังพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ในการคว่ำบาตรจีน เพื่อขัดขวางความพยายามของประธานาธิบดีสี จิ้งผิง ในการรุกรานไต้หวัน และการหารือเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ขยับมาเป็นประเด็นเร่งด่วนหลังจากเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.แนนซี เพโลซี เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตามการยืนยันของแหล่งข่าวสองรายที่ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียในเดือนมกราคม โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกนาโต แต่ความพยายามเพื่อหยุดยั้ง
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียในการส่งทหารเข้าบุกยูเครนนั้นล้มเหลวไป
นาซัค นิคัตห์ตาร์ อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้ทัศนะกับรอยเตอร์ว่า “การบังคับใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อจีนที่เป็นไปได้ มีความซับซ้อนมากกว่าการใช้มาตรการลงโทษกับรัสเซีย จากเงื่อนไขที่ว่าสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร มีความเกี่ยวพันทางเศรษฐกิจกับจีนอย่างมาก”
นักวิเคราะห์ที่ไม่มีบทบาทในรัฐบาลอเมริกัน ให้ทัศนะกับรอยเตอร์ว่า ทำเนียบขาวกำลังเน้นการปรับจูนนานาประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย ให้พ้องต้องกันในความสำคัญของการขัดขวางไม่ให้จีนรุกรานไต้หวัน ในขณะที่หลีกเลี่ยงการยั่วยุจีน
เครก ซิงเกิลตัน จากสถาบันคลังสมอง Foundation for Defense of Democracies ในกรุงวอชิงตัน มองว่า “หากมองในภาพใหญ่ การหารือเรื่องมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจในกรอบเบื้องต้น มีแนวโน้มที่จะเป็นการลดการเข้าถึงเทคโนโลยีบางประเภทที่จำเป็นต่อปฏิบัติการทางทหารกับไต้หวัน”
ขณะที่ทางทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนและสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อประเด็นเดียวกัน ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้
ฝั่งไต้หวันได้เดินหน้าหารือเรื่องมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อจีนกับเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป หลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียเช่นกัน ตามการยืนยันของแหล่งข่าวหกรายที่ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ และการเรียกร้องให้เตรียมใช้มาตรการลงโทษต่อจีนเพิ่มมากขึ้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากรายงานสมุดปกขาวของจีน เพิกถอนคำมั่นสัญญาที่จะไม่ส่งทหารเข้ามายังไต้หวันหากจำเป็น
ทางกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ระบุว่า ไต้หวันได้หารือเรื่องการซ้อมรบของจีนและ “ความท้าทายครั้งใหญ่” ของจีนที่มีต่อไต้หวันและในภูมิภาค รวมทั้งกับสหรัฐฯ ยุโรป และประเทศหุ้นส่วนอื่น ๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนี้
เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ต้องการให้กองทัพของเขามีแสนยานุภาพพร้อมสำหรับบุกยึดไต้หวันภายในปี 2027 จากคำกล่าวอ้างของผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อย่างไรก็ตาม โคเฮน เชื่อว่าปักกิ่งยังคงต้องการรวมชาติกับเกาะแห่งนี้ด้วยสันติวิธี
เคที โบ ลิลิส ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นเป็นผู้รายงานความคิดเห็นดังกล่าวของ โคเฮน ในขณะที่เธอระบุด้วยว่า สี ไม่ได้กำลังเตรียมการสำหรับรุกรานไต้หวันเร็วๆ นี้ แต่เขาอยากให้กองทัพมีแสนยานุภาพเพียงพอสำหรับการเข้าควบคุมไต้หวันโดยการใช้กำลัง
"เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำเช่นนั้น แต่ขอให้กองทัพวางสถานะของเขาอยู่ในจุดๆ หนึ่ง ซึ่งหากว่าเขาต้องการทำเช่นนั้น เขาจะสามารถดำเนินการได้" ลิลิส อ้างคำพูดของโคเฮน "จากการประเมินของประชาคมข่าวกรองทั้งหมด ยังคงเชื่อว่า สี ให้ความสนใจเข้าควบคุมไต้หวันผ่านหนทางที่ไม่ใช่วิถีทางด้านการทหาร"
ปักกิ่งเน้นย้ำอย่างเปิดเผยว่ามีความตั้งใจผนวกไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยสันติวิธี และในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคม รัฐบาลจีนเน้นย้ำความตั้งใจไม่ใช้หนทางด้านการทหาร แต่ขอสงวนไว้ซึ่ง "ทางเลือกของการใช้ทุกมาตรการที่มีความจำเป็น"
ไต้หวันปฏิเสธสูตร "1 ประเทศ 2 ระบบ" ที่ระบุอยู่ในสมุดปกขาวดังกล่าว โดยไทเปยืนกรานว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตของตนเอง
ที่มา : รอยเตอร์
https://www.republicworld.com/world-news/rest-of-the-world-news/cia-claims-china-wants-its-military-to-be-capable-enough-to-seize-taiwan-by-2027-report-articleshow.html