ญี่ปุ่นเปิดประเทศ 11 ต.ค.นี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ต้องขอวีซ่า
Highlight
แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการเมืองโลกเข้าสู่ภาวะตึงเครียดอีกครั้ง ทั้งเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น และความตึงเครียดทางสงครามทั้งยุโรปและเอเชีย แต่ยังโชคดีที่ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผ่อนคลายลงไปมาก ทำให้แต่ละประเทศหันมาปลดล็อกเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่จะเป็นอีกหนึ่งความหวังหนึ่งในการนำเงินตราเข้าประเทศเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน และยังเป็นโอกาสที่เงินเยนอ่อนค่าในรอบ 24 ปีอีกด้วย
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในการแถลงข่าวที่นิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.ย.) ว่า ญี่ปุ่นจะยกเลิกมาตรการควบคุมชายแดนสกัดโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวรายบุคคลจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และญี่ปุ่นจะยุติมาตรการจำกัดจำนวนผู้โดยสารขาเข้าในแต่ละวันด้วยเช่นกัน
นายคิชิดะกล่าวที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในเวลาต่อมาด้วยว่า ญี่ปุ่นจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมชายแดนเพื่อให้ทัดเทียมกับสหรัฐ ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะออกส่วนลดให้สำหรับการเดินทางภายในประเทศด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่ญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีราคาไม่แพงสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อนึ่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเฟื่องฟูในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 32 ล้านคนในปี 2562 และญี่ปุ่นเคยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจาก 68 ประเทศอยู่ในญี่ปุ่นได้นานถึง 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า อย่างไรก็ดี ตัวเลขนักท่องเที่ยวร่วงลงมาเหลือเพียง 246,000 คนในปี 2564
นอกจากนี้ญี่ปุ่นได้จัดมหกรรมท่องเที่ยวระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยเปิดฉากขึ้นในวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหวังว่าจะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้ หลังจากรัฐบาลเริ่มทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมพรมแดนที่บังคับใช้ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ระบาด
ทั้งนี้ มหกรรมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในงานด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการโตเกียว บิ๊ก ไซต์ โดยมีตัวแทนจากกว่า 70 ประเทศและดินแดน รวมถึง 47 จังหวัดของญี่ปุ่นเข้าร่วมส่งเสริมการเดินทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ หลังต้องยกเลิกงานดังกล่าวไปเมื่อปี 2564 เพราะโควิด-19 ระบาด
มหกรรมการท่องเที่ยวครั้งนี้จัดขึ้นทั้งสิ้น 4 วันจนถึงวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.นี้ โดยมีสมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวญี่ปุ่นร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยคาดการณ์ว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 150,000 คน
นายเคนอิจิโร ยามานิชิ ประธานสมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวญี่ปุ่นกล่าวในพิธีเปิดงานว่า “นี่เป็นโอกาสอันดีในการเปิดตัวการเดินทางรูปแบบใหม่จากโตเกียวสู่สายตาชาวโลก” โดยอ้างถึงการพิจารณายกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบของรัฐบาลญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นเดือนส.ค.ทะลุ 100,000 คน ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดน โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังพิจารณายกเลิกเพดานนักท่องเที่ยวขาเข้าในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่วันละ 50,000 คน ในเดือนต.ค.นี้เป็นอย่างเร็ว
ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นปรับเพิ่มจำนวนนักเดินทางขาเข้าประเทศรายวันจากเดิมสูงสุด 20,000 คน เป็น 50,000 คน พร้อมยกเลิกข้อกำหนดตรวจโรคโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง 72 ชั่วโมง หากนักเดินทางเหล่านั้นฉีดวัคซีนครบ 3 โดสแล้ว เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นมุ่งดึงดูดนักเดินทางเข้าประเทศ ด้วยการปรับปรุงระเบียบการเดินทางขาเข้าให้สอดคล้องกับประเทศเศรษฐกิจหลักแห่งอื่น ๆ รวมถึงใช้ประโยชน์จากเงินเยนที่อ่อนค่าจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีในวันนี้ ซึ่งจะส่งเสริมกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่น และช่วยเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลกให้ฟื้นตัวจากภาวะซบเซา
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ญี่ปุ่นยังคงต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 7 ซึ่งทำให้ยอดผู้ป่วยใหม่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยต้นตอมาจากการกระจายตัวทั่วประเทศของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่แพร่เชื้อได้ในระดับสูง
ทั้งนี้ แม้อัตราการติดเชื้อโควิด-19 จะสูง แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินจากโรคโควิด-19 และไม่ได้กำหนดมาตรการจำกัดเพื่อสกัดโรคโควิด-19 เหมือนกับการแพร่ระบาดในระลอกที่ผ่าน ๆมา