03 พฤศจิกายน 2565
868

เกาหลีเหนือซ้อมยิงขีปนาวุธต่อเนื่อง และหนึ่งลูกหายไปจากจอเรดาร์เหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่นเช้าวันนี้

เกาหลีเหนือซ้อมยิงขีปนาวุธต่อเนื่อง และหนึ่งลูกหายไปจากจอเรดาร์เหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่นเช้าวันนี้

Highlight

เกาหลีเหนือซ้อมยิงทั้งปืนใหญ่กว่า 100 นัด ขีปนาวุธ 10 ลูกในวันที่ 2 พ.ย. และเช้าวันนี้อีก 3 ลูก โดยหนึ่งใน 3 ลูกไม่พบในจอเรดาร์ ทำให้ญี่ปุ่นกังวลสั่งพลเมืองหลบภัยและแก้ไขข่าวในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความโมโหให้กับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก  เกาหลีใต้ได้ยิงอาวุธตอบโต้การยั่วยุของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามสัปดาห์ก่อนหน้า สหรัฐและเกาหลีใต้พากันซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมาเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก



รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีอีก 3 ลูกในช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) โดยหนึ่งในนั้นหายไปจากจอเรดาร์เหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการแก้ไขประกาศในเบื้องต้นที่ระบุว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้ถูกยิงข้ามเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นระบุว่า ไม่มีรายงานความเสียหายจากการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ และก่อนหน้านี้ได้มีการได้เรียกร้องให้ประชาชนในบางจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลางของญี่ปุ่นอยู่แต่ภายในที่อยู่อาศัย

นายยาสุคาซุ ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธลูกแรกได้ถูกยิงออกมาเมื่อเวลาประมาณ 7.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีวิถีโคจรเหนือญี่ปุ่น แต่หายไปจากจอเรดาร์เหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่น และขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังตรวจสอบสาเหตุของการสูญหายไปจากจอเรดาร์

ต่อมาทางการญี่ปุ่นได้ออกมาแก้ไขข่าวใหม่ อ้างอิงจากระบบเตือนภัยฉุกเฉิน J-Alert Emergency Broadcasting System ชาวบ้านในจังหวัดมิยางิ ยามางาตะ และนิงาตะ ทางภาคเหนือของญี่ปุ่น ได้รับแจ้งเตือนในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ให้หาที่หลบภัยในร่ม

ยาสึคาซู ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น เผยว่า รัฐบาลไม่สามารถติดตามเส้นทางของขีปนาวุธลูกแรกที่พุ่งเหนือทะเลญี่ปุ่นได้ จึงเกิดการออกคำเตือนผิดๆ ว่ามันพุ่งข้ามญี่ปุ่น ก่อนมีการแก้ไขให้ถูกต้อง

"เราตรวจพบการยิงที่แสดงถึงความเป็นไปได้ที่มันจะพุ่งข้ามญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นจึงใช้ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน J-Alert แต่หลังจากตรวจสอบเส้นทางการบินแล้ว ยืนยันว่ามันไม่ได้พุ่งผ่านเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่น" ฮามาดะ กล่าว

รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเผยต่อว่า ขีปนาวุธลูกแรกพุ่งที่ความสูงราวๆ 2,000 กิโลเมตร และเป็นระยะทาง 750 กิโลเมตร รูปแบบการบินดังกล่าวเรียกว่า "วิถีโค้ง" ซึ่งขีปนาวุธถูกยิงลอยสูงขึ้นสู่อวกาศ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พุ่งผ่านน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน

ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในอีกไม่กี่นาทีต่อมา นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิอะ กล่าวสั้นๆ ว่า "การยิงขีปนาวุธซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องน่าโมโหและไม่อาจให้อภัยได้โดยสิ้นเชิง"

2 พ.ย. เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่กว่า 100 ลูก หลังทดสอบขีปนาวุธ 10 ลูกรวด

กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงปืนใหญ่กว่า 100 ลูกในวันนี้ (2 พ.ย.) โดยเป็นการยิงจากพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ สู่เขตกันชนทหารที่กำหนดขึ้นภายใต้ข้อตกลงทางทหารกับเกาหลีใต้

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากคณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ว่า การยิงปืนใหญ่ดังกล่าวละเมิดข้อตกลงปี 2561 และเกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งระดมยิงขีปนาวุธ 10 ลูกรวดในวันเดียวกัน โดยขีปนาวุธลูกหนึ่งตกลงใกล้กับน่านน้ำของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปทางฝั่งทิศใต้ โดยข้ามเส้นแบ่งเขตทางทะเลโดยพฤตินัยกับเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 2 เกาหลีแยกประเทศ

กรณีดังกล่าวทำให้เกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้น 3 ลูกไปทางฝั่งเส้นแบ่งเขตทางทะเลของเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการตอบโต้

ทั้งนี้ หนึ่งในสามขีปนาวุธที่ยิงออกมาตกลงในทะเลหลวงทางใต้ของเส้นแบ่งตอนเหนือ (Northern Limit Line: NLL) ขณะที่อีกลูกหนึ่งตกลงในทะเลห่างจากเมืองซกโชทางตะวันออกของเกาหลีใต้ประมาณ 57 กิโลเมตร และลูกสุดท้ายพุ่งไปยังเกาะอุลลึงโดใกล้กับหมู่เกาะด็อกโด ก่อนจะตกลงในน่านน้ำสากล ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องประกาศเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ

“กองทัพของเราไม่สามารถอดทนต่อพฤติกรรมที่ยั่วยุของเกาหลีเหนือ และจะตอบโต้อย่างจริงจังด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐ” JCS ระบุ

ด้วยสำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ขีปนาวุธลูกแรกมีการแยกตัว บ่งชี้ว่ามันอาจเป็นอาวุธพิสัยไกล อย่างเช่นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ส่วนคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีเหนือ ระบุว่าขีปนาวุธพิสัยไกลลูกนี้ถูกยิงออกมาจากพื้นที่หนึ่งใกล้กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ

ราว 1 ชั่วโมงหลังจากยิงขีปนาวุธลูกแรก กองทัพเกาหลีใต้และยามชายฝั่งของญี่ปุ่น รายงานตรวจพบเกาหลีเหนือยิงลูกที่ 2 และ 3 ตามมา โดยทางเกาหลีใต้ระบุว่าทั้ง 2 ลูก เป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ ซึ่งยิงออกมาจากแคชอน ทางเหนือของกรุงเปียงยาง

ตามหลังการยิงอย่างน้อยๆ 23 ลูกเมื่อวันพุธ (2 พ.ย.) ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธลูกหนึ่งที่ตกห่างจากชายฝั่งของเกาหลีใต้ไม่ถึง 60 กิโลเมตร ทางประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของกาหลีใต้ ระบุว่า มันเป็นการล่วงล้ำดินแดน และวอชิงตันประณามว่ามันเป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิด

เกาหลีใต้ถึงขั้นประกาศเตือนภัยการโจมตีทางอากาศแบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก และทำการยิงขีปนาวุธของตนเอง ในความเคลื่อนไหวตอบโต้การยิงขีปนาวุธเป็นชุดๆ ของเกาหลีเหนือในวันพุธ (2 พ.ย.)

ปฏิบัติการยิงขีปนาวุธไม่หยุดหย่อนของเกาหลีเหนือ มีขึ้นหลังจากเปียงยางเรียกร้องให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้หยุดซ้อมรบขนานใหญ่ โดยอ้างว่ามันเป็นการกระทำที่หุนหันพลันแล่นและยั่วยุ ซึ่งไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป

พันธมิตรทั้ง 2 ทำการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดหนหนึ่งเท่าที่เคยมีมา ด้วยมีฝูงบินรบของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เข้าร่วมหลายร้อยลำ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-35

สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การยั่วยุของเกาหลีเหนือด้วยการยิงขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์มีขึ้น ในขณะที่เกาหลีใต้กับสหรัฐเริ่มเปิดฉากการซ้อมรบภายใต้ชื่อ Vigilant Storm ระยะเวลา 5 วัน

อ้างอิง : รอยเตอร์,  บีบีซี

ติดต่อโฆษณา!