ราคาน้ำมันผันผวนต่ำกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังข่าวโอเปกเตรียมผลิตเพิ่ม ในขณะที่ดีมานด์เริ่มลดจากโควิดระบาดหนักในจีน

Highlight

ความกังวลเศรษฐกิจจีนที่จะชะลอตัวลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก หลังพบการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายเมืองและคาดว่าจะมีการล็อกดาวน์เพิ่มเติม โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงถึงราว 27,000 คน ในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในเดือน เม.ย. ส่งผลให้มีประกาศเตือนจากรัฐบาลถึง การใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้มีข่าวลือว่าผู้ส่งออกน้ำมันกลุ่มโอเปกเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้ราคาตกลงไปราว 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะปฏิเสธข่าวในเวลาต่อมา

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคานํ้ามัน บมจ. ไทยออยล์เมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ระบุราคา นํ้ามันดิบปรับลดลง จากความกังวลหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีนเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีข่าวลือเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก

บมจ.ไทยออยล์ ระบุปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ ประกอบด้วย

ความกังวลเศรษฐกิจที่จะชะลอตัว หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มสูงถึงราว 27,000 คน ในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในเดือน เม.ย. ส่งผลให้มีประกาศเตือนจากรัฐบาล ถึงการใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง

ค่าเงินดอลลาสหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าขึ้นราว 0.9% ต่อสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น นับเป็นการแข็งค่ารายวันที่สูงที่สุด ตั้งแต่ 14 ต.ค. ในขณะที่ค่าเงินนยูโร ปรับอ่อนค่าลงราว 0.7% เชนกัน ส่งผลใหสัญญานํ้ามันดิบที่ซื้อขายในสกุลดอลลาร์ สหรัฐฯแพงขึ้น

เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ประจําประเทศ ซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)ไม่มีการหารือเพิ่มกําลังการผลิต ก่อนการประชุมครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค. โดยกล่าวเพิ่มเติมว่าทาง ซาอุดีอาระเบียมีความพร้อมในการลดกําลังการผลิตเพิ่มเติมเพื่อรักษาสมดุลของตลาด

ทั้งนี้ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ WTI หลุดระดับ 76 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุด 84 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตโดยสื่อต่างประเทศรายงานข่าว

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากรัฐมนตรีของกลุ่มโอเปก ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

รายงานระบุว่า โอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วันในการประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 ธ.ค.

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสสร้างความไม่พอใจต่อสหรัฐ หลังประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของโอเปกพลัสนับตั้งแต่ปี 2563 และเป็นการปรับลดกำลังการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการให้มีการเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลสหรัฐ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในไตรมาส 4 สู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ความไม่ชัดเจนของกลุ่ม G7 ในการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เป็นอีกสาเหตุที่ฉุดราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ยังคงตรึงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล

โควิดในจีนพุ่งสูง อาจส่งผลต่กการเติบโตทางเศรษฐกิจ

คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 28,127 รายในวันจันทร์ (21 พ.ย) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 2,225 ราย และไม่แสดงอาการ 25,902 ราย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันจันทร์เพิ่มขึ้นจากระดับ 27,095 รายในวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 2,365 ราย และไม่แสดงอาการ 24,730 ราย

ทั้งนี้ จีนพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายในวันจันทร์ หลังจากที่พบผู้เสียชีวิต 2 รายในวันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 5,231 ราย และผู้ติดเชื้อที่มีอาการมีจำนวนทั้งสิ้น 290,787 ราย

ส่วนในกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนนั้นรายงานพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจำนวน 274 ราย และไม่แสดงอาการจำนวน 1,164 รายในวันจันทร์ เทียบกับวันอาทิตย์ซึ่งพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจำนวน 154 ราย และไม่แสดงอาการจำนวน 808 ราย

ขณะที่เมืองกว่างโจวซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 19 ล้านคน รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แสดงอาการจำนวน 253 ราย และไม่แสดงอาการจำนวน 7,975 รายในวันจันทร์ เทียบกับวันอาทิตย์ซึ่งพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจำนวน 296 ราย และไม่แสดงอาการจำนวน 7,885 ราย

สำหรับเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนรายงานพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจำนวน 4 ราย และไม่แสดงอาการจำนวน 44 รายในวันจันทร์ เทียบกับวันอาทิตย์ซึ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจำนวน 6 ราย และไม่แสดงอาการ 33 ราย

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลงในจีนเป็นปัจจัยฉุดตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ในระดับที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน และแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก