30 พฤศจิกายน 2565
738

จีนเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ปูทางสู่การเปิดประเทศ

จีนเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ปูทางสู่การเปิดประเทศ
Highlight

จีนประกาศจะส่งเสริมผู้สูงอายุฉีดวัคซีน้องกันโควิด ใครไม่ฉีดต้องชี้แจงเหตุผล และเตรียมใช้ Big Data ในการค้นหาผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน เพราะพบว่ามีประชากรอายุเกิน 80 ปีเพียง 65.8% ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน นักวิเคราะห์มองว่า นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจไปสู่การเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ และช่วยหยุดการประท้วง หากทุกคนปลอดภัยและได้รับวัคซีนทั่วถึง


จีนประกาศว่าจะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมองว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเปิดประเทศ หลังจากทางการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดผ่านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) แต่ไม่ได้ประกาศมาตรการอื่น ๆ ที่จะมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนเหมือนในประเทศอื่น ๆ

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงในวันนี้ (29 พ.ย.) ว่า จะเร่งผลักดันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานพยาบาล และจะสั่งการให้ผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนชี้แจงเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะใช้ข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ในการค้นหาผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน

แม้ปัจจุบันประชาชนกว่า 90% จากทั้งหมด 1.4 พันล้านคนในจีนจะได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ตัวเลขผู้สูงอายุที่เข้ารับวัคซีนกลับมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะบุคคลที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป โดยตัวเลข ณ วันจันทร์ (28 พ.ย.) พบว่ามีประชากรอายุเกิน 80 ปีเพียง 65.8% ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน เทียบกับ 40% ณ วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. และมีเพียง 40% ที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ขณะที่ 86% ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว

นอกจากนี้ สำนักข่าวไชน่าเดลีรายงานโดยอ้างอิงถ้อยแถลงของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนว่า พื้นที่ต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมโควิด-19 ควรวิเคราะห์สถานการณ์อย่างแม่นยำ และยกเลิกการบังคับใช้มาตรการจำกัดทันทีที่เข้าเกณฑ์ของข้อกำหนดการควบคุมและป้องกันโรคระบาด

ส่วนสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างอิงแถลงการณ์ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนว่า จีนจะเดินหน้าปรับปรุงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ให้เหมาะสมต่อไป

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้น หลังประชาชนรวมตัวประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่กรุงปักกิ่งไปจนถึงนครเซี่ยงไฮ้ เมืองเฉิงตู และเมืองคัชการ์ โดยประชาชนรวมตัวกันตามถนนสายต่าง ๆ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

หุ้นแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ (CanSino Biologics Inc) ผู้ผลิตวัคซีนชนิดสูดดม พุ่งทะยานขึ้นถึง 18% ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า สัดส่วนการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้นจะช่วยให้จีนสามารถก้าวสู่เส้นทางการเปิดประเทศได้ โดยปัจจุบันจีนใช้เฉพาะวัคซีนที่ผลิตภายในประเทศเท่านั้น

ด้านตำรวจจีนได้ระดมกำลังออกลาดตระเวนในกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) เพื่อป้องกันการชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความยากลำบากให้กับการใช้ชีวิตของประชาชนจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ จนนำไปสู่การเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจได้ระดมกำลังกันออกลาดตระเวนตามพื้นที่ต่าง ๆ ในนครเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่งในช่วงเช้าวันนี้ โดยมุ่งเน้นไปยังพื้นที่ที่กลุ่มคนจำนวนหนึ่งส่งสัญญาณจัดการประท้วงขึ้นอีกครั้งผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์เทเลแกรม โดยตำรวจได้เข้าประจำการในพื้นที่สุ่มเสี่ยงตลอดคืนวันจันทร์ (28 พ.ย.) เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการรวมตัวประท้วงอีกรอบ

ประชาชนในพื้นที่เปิดเผยว่า ตำรวจได้ขอดูโทรศัพท์ของผู้ที่สัญจรผ่านพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPNs) และแอปพลิเคชันเทเลแกรมหรือไม่ ซึ่งทั้งคู่เป็นเครื่องมือที่ผู้ประท้วงใช้ติดต่อสื่อสารกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย VPNs ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน ส่วนเทเลแกรมนั้นถูกปิดกั้นจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากคลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1 รายถูกจับกุมตัวที่เมืองหางโจวเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ หลังจากสื่อตีข่าวว่า ตำรวจได้ใช้รถนำตัวผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งออกจากพื้นที่ชุมนุมในเซี่ยงไฮ้เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.

ติดต่อโฆษณา!