“สี จิ้นผิง” เยือนซาอุดิอาระเบีย สานสัมพันธ์ชาติอาหรับ เสริมความมั่นคงด้านพลังงาน
Highlight
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เดินทางเยือนกรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมหารือสุดยอดกับบรรดาผู้นำประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงด้านพลังงานของจีน ในช่วงที่จีนกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และคาดว่าผู้นำจีนจะหารือเรื่องลงทุนขนาดใหญ่ โครงการก่อสร้างอภิมหานครแห่งอนาคต ที่มีชื่อว่า NEOM มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ ตามแนวคิดของเจ้าชายบิน ซัลมาน
ประธานาธิบดี สี เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงริยาดและโบกมือทักทายเจ้าหน้าที่ผู้มาต้อนรับ โดยมีเครื่องบินไอพ่นของกองทัพซาอุฯ บินเหนือท้องฟ้าเพื่อแสดงการต้อนรับผู้นำจีน
สื่อ Saudi Press Agency รายงานว่า ปธน.สี จะเข้าเฝ้าฯ เพื่อหารือกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย และมกุฎราชกุมาร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับสมาชิกสภาความร่วมมือแถบอ่าวเปอร์เซีย 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุฯ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง กล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและเป็นการหารือทางการทูตระดับสูงที่สุดของจีนและชาติอาหรับนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และถือเป็นหลักไมล์ที่สำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาหรับ
คาดว่าจะมีการจัดทำข้อตกลงการค้าหลายฉบับระหว่างจีนกับซาอุฯ ระหว่างการเยือนครั้งนี้ โดยเฉพาะการซื้อน้ำมันดิบจากผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุฯ เพื่อป้อนให้กับภาคอุตสาหกรรมจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ จีนคือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของซาอุฯ ซึ่งนำเข้าน้ำมันดิบราว 25% ของน้ำมันดิบทั้งหมดที่ซาอุฯ ส่งออก
นอกจากเรื่องพลังงานแล้ว คาดว่าผู้นำจีนจะหารือเรื่องโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของจีนในซาอุฯ และตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการร่วมก่อสร้างโครงการอภิมหานครแห่งอนาคตที่มีชื่อว่า NEOM มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ ตามแนวคิดของเจ้าชายบิน ซัลมาน
การขัดแย้งครั้งล่าสุดระหว่างพันธมิตรสองประเทศนี้เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม เมื่อที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ 'โอเปกพลัส' ตกลงลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งทางทำเนียบขาวไม่พอใจและระบุว่า เป็นการช่วยเหลือรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน
องค์กรที่ปรึกษาด้านการเมือง Eurasia Group มีรายงานว่า การที่จีนและซาอุฯ มิได้มีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องสิทธิมนุษยชน การเยือนของ สี จิ้นผิง ในครั้งนี้จึงมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่าการเยือนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับซาอุฯ ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะมีความแนบแน่นลึกซึ้งแบบเดียวกับที่อเมริกามีอยู่ในขณะนี้
ซีเอ็นเอ็นระบุว่า การเดินทางมาประชุมสุดยอดจีน-รัฐอาหรับเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กรุงริยาดในครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติอาหรับ และถือเป็นชัยชนะทางการทูตครั้งสำคัญของเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย
ซึ่งถูกชาติตะวันตกระงับความสัมพันธ์มานานหลายปี หลังจากเกิดคดี นายจามาล คาชอกกี นักข่าวและคอลัมนิสต์คนดัง ชาวซาอุดีอาระเบียถูกฆาตกรรมที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูล ในประเทศตุรกี เมื่อปี 2561
ที่มา : เอพี, VOA