Google เผยคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในไทยปี’ 65 คือ“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ตามมาด้วย "แตงโม นิดา" "แจ็คสัน หวัง" และ“นะหน้าทอง” เพลงฮิต 150 ล้านวิว

Highlight

คำที่คนทั่วโลกค้นหาในกูเกิลมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมาคือคำว่า "Wordle" ส่วนข่าวยูเครน คือข่าวที่ถูกค้นหามากที่สุด เมื่อดูเฉพาะประเทศไทย ปรากฏว่า คำค้นหายอดนิยมคือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ตามมาด้วย "แตงโม นิดา" ขณะที่ "แจ็คสัน หวัง" เป็นชื่อที่บุคคลที่คนไทยค้นหามากที่สุด ส่วนเพลงยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุด ได้แก่ “นะหน้าทอง” ของโจอี้ ภูวศิษฐ์

กูเกิล เปิดเผยคำที่มีการค้นหามากที่สุดในโลกประจำปี 2022 รวมถึงคำค้นหาในหมวดหมู่ต่าง ๆ ทั้งข่าว เพลง คนดัง สูตรอาหาร ขณะที่บุคคลที่คนไทยค้นชื่อมากที่สุดคือ แจ็คสัน หวัง

จนถึงวันที่ 7 ธ.ค. 2565 คำที่ค้นทั่วโลกค้นหามากที่สุดในปี 2022 คือคำว่า "Wordle" ซึ่งเป็นเกมทายคำ 5 ตัวอักษร โดยผู้เล่นจะได้รับโอกาสในการทายคำที่ถูกต้อง 5 ครั้ง ขณะที่คำว่า "India VS England" คือคำที่ถูกค้นมากเป็นอันดับที่ 2 คาดว่า น่าจะเกี่ยวกับการแข่งขันคริกเก็ตชิงแชมป์โลกระหว่างทีมชาติอินเดียและทีมชาติอังกฤษ โดยกีฬาคริกเก็ตเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมใน 2 ชาตินี้

ตามมาด้วยคำว่า "Ukraine" ซึ่งหมายถึงประเทศยูเครนที่กำลังสู้รบกับรัสเซียที่ยกทัพบุกยูเครนตั้งแต่ 24 ก.พ. และคำว่า "Queen Elizabeth" ซึ่งหมายถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งสวรรคตเมื่อ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะมีชนมพรรษา 96 พรรษา

คนค้น “ข่าวยูเครน” มากที่สุด

ขณะที่ข่าว 5 อันดับแรก ที่คนทั่วโลกสนใจค้นหามากที่สุด 2 อันดับแรก สอดคล้องกับคำค้นหายอดนิยมคือ ข่าวสถานการณ์สงครามในยูเครน และข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตามมาด้วยข่าวผลการเลือกตั้ง ซึ่งปีนี้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นหลายประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งในบราซิล, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย และการเลือกตั้งกลางสมัยในสหรัฐฯ

อันดับ 4 เป็นข่าวเลขพาวเวอร์บอลล์ ซึ่งเป็นลอตเตอรี่ในสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมีผู้ถูกรางวัลแจ็กพอต ได้รับเงินรางวัล 2,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 71,600 ล้านบาท) ถือเป็นเงินรางวัลล็อตเตอรีที่สูงที่สุดในโลก

อันดับ 5 คือข่าวฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสฝีดาษลิง อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ แต่มีอาการรุนแรงน้อยกว่าฝีดาษธรรมดามากและ สามารถใช้วัคซีนป้องกันฝีดาษในการป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิงได้

“ปูติน” ติดอันดับ 4 หมวดบุคคล

ขณะที่ในหมวดบุคคล ผู้ที่ถูกค้นชื่อมากที่สุดคือ จอห์นนี เดปป์ ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ซึ่งมีการฟ้องคดีหมิ่นประมาทต่อแอมเบอร์ เฮิร์ด อดีตภรรยา โดยเมื่อเดือน มิ.ย. คณะลูกขุนในสหรัฐฯ พบว่า เฮิร์ดทำให้อดีตสามีเสื่อมเสียชื่อเสียงจากบทความที่เธออ้างว่า ตัวเองเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เดปป์ซึ่งปฏิเสธการล่วงละเมิดเฮิร์ด ได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายเชิงลงโทษรวม 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 526 ล้านบาท)

ล่าสุดทนายความของเฮิร์ดได้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคดีนี้แล้ว โดยชื่อของแอมเบอร์ เฮิร์ด ก็กลายเป็นชื่อที่มีคนค้นหามากที่สุดในกูเกิลเป็นอันดับ 3 ในหมวดบุคคลประจำปีนี้ด้วย

ส่วนวิลล์ สมิธ ดาราดังที่กลายเป็นข่าวฉาวปีนี้อีกคน เป็นบุคคลที่คนทั่วโลกค้นหาชื่อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ขณะที่คริส ร็อก คู่กรณีของเขาติดอันดับ 5 โดยทั้งสองคนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ช่วงปลายเดือน มี.ค. ซึ่งร็อกเป็นพิธีกรในงาน หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันบนเวทีออสการ์ เมื่อวิลล์ สมิธ เดินขึ้นไปบนเวทีและตบหน้า คริส ร็อก เนื่องจากไม่พอใจที่ร็อกพูดถึงรูปลักษณ์ของ เจดา สมิธ ภรรยาของเขา โดยล้อว่า เธอควรได้แสดงหนังเรื่อง G.I. Jane ซึ่งตัวละครนำหญิงไว้ผมสั้นทรงสกินเฮด ต่อมาช่วงปลายเดือน ก.ค. วิลล์ ได้โพสต์คลิปขอโทษต่อร็อก ระบุว่า "ผมรู้สึกผิดอย่างยิ่ง"

ขณะที่ชื่อของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย คือชื่อที่มีคนค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในหมวดบุคคล และเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง

นักแสดง 5 คนแรกที่คนทั่วโลกค้นหาชื่อมากที่สุดในปีนี้ 4 อันดับแรก สอดคล้องกับชื่อในหมวดบุคคล ส่วนอันดับ 5 คือ เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ ภรรยาของ วิลล์ สมิธ

เพลงดังจากหลายประเทศ

สำหรับหมวดเพลงปีนี้มีเพลงจากหลายประเทศติดอยู่ใน 5 อันดับแรก เพลงที่มีคนค้นชื่อมากเป็นอันดับแรกคือเพลง "Tak Ingin Usai" ผลงานของ Keisya Levronka นักร้องสาววัย 19 ปีจากประเทศอินโดนีเซีย โดยมีคนเข้าชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ทางยูทิวบ์มากกว่า 145 ล้านครั้งแล้ว

อันดับ 2 คือเพลง "Pasoori" เป็นการร้องคู่กันของนักร้องชาวปากีสถาน 2 คนคือ Ali Sethi และ Shae Gill อันดับ 3 คือ "Glimpse of Us" ผลงานของ Joji นักร้องลูกครึ่งออสเตรเลีย-ญี่ปุ่น อันดับ 4 คือ "Satru 2" ผลงานของศิลปินชาวอินโดนีเซีย 2 คนคือ Denny Caknan และ Happy Asmara และชื่อเพลงที่คนค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 5 เป็นภาษาญี่ปุ่น คือ "ミックスナッツ" ผลงานของวง Official Hige Dandism

ชื่อสูตรอาหารที่มีจำนวนการค้นหามากที่สุดในกูเกิลคือ "पनीर पसंदा" (ออกเสียงว่า ปาเนีย ปาซัน) ซึ่งเป็นเมนูอาหารอินเดียชนิดหนึ่ง ส่วนสัตว์เลี้ยงที่มีคนค้นหามากที่สุดคือ "Domestic short haired cat" หรือ แมวบ้านขนสั้น ตามมาด้วย "Tabby cat" ซึ่งหมายถึงแมวลายสลิด โดยมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ ลายตัวอักษร M ที่หน้าผาก

คำค้นหายอดนิยมในไทย

ส่วนคำค้นหายอดนิยมในประเทศไทย 5 อันดับแรกคือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ", "แตงโม นิดา", "คนละครึ่ง เฟส 5", "ใต้หล้า" และ "คังคุไบ"

โครงการของรัฐบาลติดอันดับคำค้น 2 โครงการคือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเปิดให้ประชาชนที่มีรายได้ไม่ถึง 100,000 บาทต่อปี และมีคุณสมบัติอื่น ๆ เข้าเกณฑ์ลงทะเบียนตั้งแต่ช่วงกลางปี และโครงการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยโดยรัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ไม่เกินวันละ 150 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 800 บาท ตลอดโครงการ โดยได้มีการเปิดรับลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เมื่อช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

ส่วนชื่อ "แตงโม นิดา" ดาราสาวที่เสียชีวิตขณะล่องเรือพร้อมกับกลุ่มเพื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นคำค้นหายอดนิยมมากเป็นอันดับ 2 ของไทย เพราะการเสียชีวิตที่มีข้อน่าสงสัยหลายอย่างของเธอ ทำให้สื่อและประชาชนให้ความสนใจติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อย่างใกล้ชิด และแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับแตงโมก็ติดอันดับในทวิตเตอร์มาแล้วหลายครั้ง

ขณะที่อันดับ 4 "ใต้หล้า" เป็นละครที่ออกอากาศทางช่องวัน 31 นำแสดงโดย "ต่อ" ธนภพ ลีรัตนขจร และอันดับ 5 "คังคุไบ" เป็นชื่อของภาพยนตร์อินเดียที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ์ของโสเภณี ความนิยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งมีชื่อเต็มว่า "Gangubai Kathiawadi" หรือชื่อภาษาไทย "หญิงแกร่งแห่งมุมไบ" ทำให้มีคนไทยจำนวนมากแต่งกายเลียนแบบตัวละครนำหญิงในเรื่อง

ข่าวแตงโมครองอันดับ 1

ส่วนในหมวดข่าว ข่าวที่มีการค้นหามากที่สุดในไทยคือ "ข่าวแตงโม" การเสียชีวิตของ นิดา พัชรวีระพงษ์ ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนคลางแคลงใจอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะผ่านมานานเกือบ 10 เดือนแล้ว ต่อด้วย "ข่าวกราดยิง" โศกนาฏกรรมที่จังหวัดหนองบัวลำภูเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เมื่ออดีตตำรวจก่อเหตุใช้อาวุธปืนและมีดทำร้ายเด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเสียชีวิต 24 คน นอกจากนี้ยังทำร้ายประชาชนทั่วไป รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้ 37 คนรวมผู้ก่อเหตุ

อันดับ 3 คือ "ข่าวพระบิดา" ซึ่งเป็นการบุกตรวจสอบลัทธิหนึ่งใน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยนายทวี หนันลา อายุ 74 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นฤาษี เป็นเจ้าลัทธิ และบรรดาสาวกที่ติดตามเรียกเขาว่า "พระบิดา" หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่า มีการกักขัง "ผู้มาปฏิบัติธรรม" และรักษาโรคด้วยวิธีการแปลกประหลาดที่ไม่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ยังพบโลงศพบรรจุศพผู้เสียชีวิตหลายโลงด้วย

"ข่าวรัสเซีย ยูเครน" ซึ่งหมายถึงสถานการณ์สู้รบในยูเครน หลังรัสเซียยกทัพบุกยูเครนตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นข่าวที่คนในประเทศไทยค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ตามมาด้วย "ข่าวลุงพล" เป็นอันดับ 5 โดย "ลุงพล" หรือนายไชย์พล วิภา ตกเป็นผู้ต้องหาตั้งแต่ปีที่แล้วในคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ "น้องชมพู่" ตั้งแต่ปี 2563

แจ็กสัน หวัง ครองแชมป์หมวดบุคคล

ขณะที่ในหมวดบุคคล แจ็กสัน หวัง ศิลปินชาวจีนฮ่องกงชื่อดังและหนึ่งในสมาชิกวง Got7 เป็นชื่อที่คนไทยค้นหามากที่สุด โดยปีนี้เขาได้เริ่มตะเวนการแสดงคอนเสิร์ตไปทั่วโลกและได้มาจัดการแสดงที่ไทยเป็นแห่งแรกเมื่อช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เขาได้เดินทางมาทำการแสดงในไทยระหว่างการแข่งขันฟุตบอลศึกแดงเดือดมาแล้วช่วงเดือน ก.ค.

ชื่อบุคคลอันดับ 2 ที่คนไทยค้นหามากที่สุดคือ "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" เขาเป็นนักการเมือง อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ยังเป็นบุตรชายของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก เขาได้ลาออกจากทุกตำแหน่งดังกล่าว หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ แต่เขาปฏิเสธ

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นชื่อที่มีคนค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 3 โดยเขาชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา อย่างถล่มทลาย ส่วนชื่อที่มีคนค้นหามากที่สุดอีก 2 อันดับต่อมาต่างก็เป็นคนในวงการบันเทิงคือ "โม อมีนา" และ "เติ้ล ธนพล"

ส่วนเพลงที่คนไทยค้นหามากที่สุดในกูเกิลนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาคือ "นะหน้าทอง" ผลงานการขับร้องของโจอี้ ภูวศิษฐ์ จากค่ายจีนี่ เรคคอร์ด โดยมียอดการเข้าชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้แล้วมากกว่า 150 ล้านครั้งทางยูทูป อันดับต่อมาคือเพลง "โต๊ะริม" ของนนท์ ธนนท์, เพลง "พิจารณา" ของวง Musketeers, เพลง "วาดไว้" ของ Bowkylion และ "สหายสุรา" ของ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า

อ้างอิง : BBC