นักวิจัยฮ่องกงเผย คนจีนอาจเสียชีวิตมากกว่า 2 ล้านคนจากโรคโควิดหลังยกเลิกมาตรการคุมเข้ม ในขณะที่ยาลดไข้ขาดตลาดในเวลานี้
Highlight
นักวิจัยฮ่องกงเผยผลวิจัย ประชาชนจีนมากกว่า 2 ล้านคน อาจเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ยาลดไข้มีราคาสูงลิ่วและขาดตลาดในขณะนี้ นอกจากนี้ทางการจีนเลิกนับจำนวนผู้ติดโควิดที่ไม่แสดงอาการ เพราะผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการไม่ยอมเข้ารับการตรวจ หลังยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบเฉียบพลัน คาดกันว่า ในที่สุดคนจีนจะติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นมากถึง 80% ของจำนวนประชากร
นักวิจัยฮ่องกงเปิดเผยผลวิจัยล่าสุดระบุว่า ประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนในจีนอาจเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายงานผลการวิจัยโดยนายกาเบรียล เหลียง อดีตคณบดีประจำคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง และนักวิจัยอีก 2 คนบ่งชี้ว่า การยุติการรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในวงกว้าง รวมถึงมาตรการอื่น ๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้น จะทำให้ประชาชน 684 คนต่อ 1 ล้านคน จะเสียชีวิตในการเปิดประเทศ โดยจีนมีประชากรทั้งสิ้น 1.41 พันล้านคน
นักวิจัยได้พิจารณาจากสถานการณ์ที่แตกต่างกันหลังความเคลื่อนไหวเมื่อเร็ว ๆ นี้ของรัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการประกาศ 10 มาตรการใหม่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เพื่อผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เช่น การบังคับตรวจเชื้อและการล็อกดาวน์
“ผลการวิจัยของเราบ่งชี้ให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขท้องถิ่นในทุก ๆ มณฑลทั่วจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่สามารถรับมือกับการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากการเปิดประเทศในช่วงเดือนธ.ค. 2565 – ม.ค. 2566” รายงานวิจัยระบุ
ทั้งนี้ รายงานการวิจัยดังกล่าวที่เผยแพร่ในวันพุธ (14 ธ.ค.) ยังคงเป็นรายงานฉบับร่าง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ได้รับการตรวจสอบหรือรับรองอย่างเป็นทางการโดยผู้เชี่ยวชาญ
ด้านหน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีนยกเลิกการนับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แท้จริงในประเทศ โดยมองว่าเป็นสิ่งที่ “เป็นไปไม่ได้” ในการติดตามเก็บข้อมูลในตอนนี้ ด้านเจ้าหน้าที่จีนเตือนว่ายอดติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในกรุงปักกิ่ง หลังรัฐบาลยกเลิกนโยบายสกัดกั้นการระบาดอย่างกะทันหัน ตามรายงานของเอเอฟพี
ทั้งนี้ จีนได้ประกาศผ่อนปรนกฎเกณฑ์การตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่และการกักตัวในสัปดาห์ที่แล้วหลังพยายามป้องกันโรคระบาดมานานเกือบ 3 ปี ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
ทางการกรุงปักกิ่งยกเลิกมาตรการตรวจผู้ติดเชื้อในวงกว้างและการกักตัวสังเกตอาการโควิด-19 หลังจากพยายามใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโควิด ยังผลให้ยอดติดเชื้อที่ทางการจีนเก็บข้อมูลมาได้อยู่ในสัดส่วนที่น้อย แต่ผลจากการผ่อนคลายมาตรการอย่างฉับพลันทันทีของจีนทำให้ยอดติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงเป็นประวัติศาสตร์เมื่อเดือนที่แล้ว
ล่าสุด คณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติจีน (National Health Commission-NHC) ยอมรับว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศที่รายงานในช่วงที่ผ่านมา อาจไม่สะท้อนถึงสถานการณ์การระบาดที่แท้จริงในประเทศ โดยออกแถลงการณ์ในวันพุธว่า “ผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการจำนวนมากไม่ได้เข้าร่วมการตรวจสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสอีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนับจำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการได้อย่างแม่นยำ”
ท่าทีของหน่วยงานสาธารณสุขจีน มีขึ้นหลังจากรองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลาน ที่ดูแลงานด้านโควิดของจีน กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองหลวงของจีนตอนนี้ “เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ในวันพุธ ทางการจีนประกาศแผนให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้ารับวัคซีนกระตุ้นภูมิ หรือ บูสเตอร์ เข็มที่ 2 หลังจากเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มแรกไปแล้ว 6 เดือน ทั้งนี้ จีนเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด แม้ว่าประเทศกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างกังวลว่าจีนอาจไม่พร้อมรับกับคลื่นการระบาดดังกล่าว เนื่องจากขาดแคลนทรัพยากรและการจัดการด้านสาธารณสุขที่เพียงพอรับมือ ขณะที่ยังมีประชาชนผู้สูงอายุในกลุ่มเสี่ยงนับล้านชีวิตที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนครบโดส บรรยากาศในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ ประชาชนราว 50 คนต่อแถวยาวออกมานอกประตูคลินิกในเมืองหลวงของจีน โดยผู้ที่รอเข้ารับการรักษา เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าพวกเขาหรือพาสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้สูงวัยติดโควิด-19 มาเข้ารับการรักษา
ปักกิ่งอ่วมหนักจากโควิด ท้องถนนทั่วกรุงปักกิ่งยังคงว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าร้านอาหาร ร้านค้า และสวนสาธารณะ กลับมาเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้ตามปกติแล้วในกรุงปักกิ่ง แต่ประชาชนที่นั่นยังไม่สามารถหาหนทางที่จะใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสได้อย่างปกติ ผู้คนที่ล้มป่วยด้วยโควิดแบบมีอาการรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน ขณะที่คนที่ไม่ติดเชื้อจำนวนมากเลือกอยู่ที่บ้านเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ ส่วนภาคธุรกิจยังประสบปัญหาอยู่เพราะโควิดกระทบกับการกลับมาใช้ชีวิตของผู้คนรวมทั้งกับพนักงานด้วย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานยาลดไข้ขาดตลาดและผู้คนยังต่อแถวซื้อยาตามร้านขายยาเนืองแน่น เสิร์ชเอ็นจินรายใหญ่ของจีนไป่ตู้ (Baidu) พบการค้นหายาลดไข้ไอบูโพรเฟ่น (Ibuprofen) ในช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น 430% เมื่อสัปดาห์ก่อน
เมื่อความต้องการชุดตรวจโควิดแบบแอนติเจนและยาต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ราคาจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ในตลาดมืดพุ่งสูงอย่างมาก ชาวจีนจำนวนหนึ่งหันไปพึ่งพา “ตัวแทนจำหน่าย” ที่ส่งต่อรายชื่อกันมาผ่านทาง WeChat และทางการจีนเร่งปราบปรามการโก่งราคาสินค้าจากผู้ประกอบการ โดยสั่งปรับบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง 300,000 หยวน หรือเกือบ 1.5 ล้านบาท ฐานจำหน่ายชุดตรวจโควิดเกินราคาเมื่อวันอังคาร อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่น Beijing News
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดในสังคมจีนหลังการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด คือ ผู้คนกล้าที่จะเปิดเผยเรื่องการติดโควิดพร้อมทั้งอธิบายอาการที่ป่วยผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จากเดิมที่ผู้คนในจีนมองว่าการติดเชื้อเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึงและผู้ที่หายจากการติดเชื้อได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากคนรอบข้าง
อ้างอิง : เอเอฟพี VOA