หลายประเทศหนุนมาตรการคุมเข้มโควิด-19 และการตรวจเชื้อนักท่องเที่ยวขาเข้าที่มาจากจีน

หลายประเทศหนุนมาตรการคุมเข้มโควิด-19 และการตรวจเชื้อนักท่องเที่ยวขาเข้าที่มาจากจีน
Highlight 

หลังจากจีนประกาศเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.66 ยอดจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักพุ่งพรวด แต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศจีนในขณะนี้อยู่ในอัตราที่สูงมาก คาดว่าน่าจะติดเชื้อวันละหลายล้านคน หลายประเทศหวั่นการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนอาจนำเชื้อโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่เข้าประเทศ จึงเตรียมใช้มาตรการคุมเข้มนักท่องเที่ยวขาเข้าจากจีนเป็นพิเศษ บางประเทศอาจต้องกักตัว 7 วัน

 

จากการคาดว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีนอยู่ในระดับสูง อาจะมีการติดเชื้อวันละหลายล้านคน ซึ่งปัจจุบันไม่มีการนับจำนวนผู้ติดเชื้อ รวมทั้งไม่มีการควบคุมการเดินทางระหว่างกัน หลายประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจีนจึงออกมา สนับสนุนมาตรการคุมเข้มนักท่องเที่ยวจีนขาเข้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ๆ เข้าประเทศ จึงอาจจะมีการกักตัวระยะหนึ่งสำหรับบางประเทศ

ฟิลิปปินส์ 

นายไฆเม เบาทิสตา รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เขาสนับสนุนการใช้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการตรวจเชื้อนักท่องเที่ยวขาเข้าที่มาจากจีน

นายเบาทิสตากล่าวกับนักข่าวว่า “ผมคิดว่าเราควรมีความรอบคอบให้มากเข้าไว้ เพราะถ้าในจีนมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก เราก็ควรเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจากจีนที่กำลังจะมาเยือนฟิลิปปินส์”

นอกจากนี้ นายเบาทิสตายังกล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังได้เขียนจดหมายถึงจีนในเดือนนี้ โดยแจ้งว่า ฟิลิปปินส์พร้อมแล้วที่จะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับเงินกู้สำหรับโครงการรถไฟของฟิลิปปินส์อีกครั้ง ก่อนการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในเดือนม.ค.นี้

สหรัฐฯ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อ 28 ธ.ค.ว่า รัฐบาลสหรัฐจะกำหนดให้ผู้โดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากประเทศจีนจะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR เป็นลบไม่น้อยกว่า 2 วันก่อนที่จะเดินทางออกจากจีน, ฮ่องกง และมาเก๊า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2566

ส่วนผู้โดยสารที่มีผลตรวจเป็นบวกมากกว่า 10 วันก่อนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น สามารถยื่นเอกสารที่แสดงว่าตนเองหายป่วยแล้วด้วยการแสดงผลการตรวจครั้งใหม่เป็นลบ ขณะที่สายการบินก็จะต้องยืนยันผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ หรือเอกสารที่แสดงว่าผู้โดยสารหายจากการป่วยแล้ว ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังสหรัฐ 

ทั้งนี้ สหรัฐดำเนินการตามทิศทางเดียวกับประเทศอื่น ๆ เช่นอินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น และไต้หวันที่ได้ประกาศข้อกำหนดดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนยังคงย่ำแย่

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแสดงความวิตกกังวลว่า การที่โควิด-19 แพร่ระบาดแบบต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ย่อยร้ายแรงชนิดใหม่เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สายพันธุ์โอมิครอนอุบัติขึ้น

 ไต้หวัน

รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) ว่า จะดำเนินมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจีนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อในจีนพุ่งสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก 

ญี่ปุ่น 

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า  ญี่ปุ่นจะยกระดับขั้นตอนการควบคุมบริเวณพรมแดนต่อนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายคิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่หรือผู้มีประวัติเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ภายใน 7 วัน ต้องทดสอบหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (30 ธ.ค.) โดยผู้มีผลตรวจโควิดเป็นบวกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน นอกจากนี้ นายคิชิดะยังสั่งจำกัดแผนเพิ่มเที่ยวบินไป-กลับประเทศจีนอีกด้วย

มีความกังวลมากขึ้นในญี่ปุ่น เนื่องจากรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีนนั้นรู้ได้ยาก” นายคิชิดะกล่าว โดยอ้างถึงข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากภาครัฐและเอกชนที่แตกต่างกันอย่างมาก

 โควิดในญี่ปุ่นระบาดหนัก วันเดียวเสียชีวิต 415 ราย

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นรายงานเมื่อ 28 ธ.ค.ว่า ญี่ปุ่นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 415 ราย ทำสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตในวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์

รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 216,219 รายในวันนี้ เพิ่มขึ้น 4% จากเมื่อสัปดาห์ก่อน เข้าใกล้สถิติสูงสุดที่ประมาณ 260,000 รายในวันเดียวเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ที่ได้รับการยืนยันมากที่สุดในโลก และมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ

คาดคนจีนติดโควิดวันละหลายล้านคน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรงพยาบาลในจีนตกอยู่ในสภาวะกดดันอย่างหนัก เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบกับภาคสาธารณสุขของประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศใหญ่ชาติสุดท้ายที่เปลี่ยนผ่านไปสู่การรับมือโควิด-19 ในฐานะโรคประจำถิ่น

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่มีขึ้นหลังจากการประท้วงต่อต้านนโยบายโควิด-19 อันเข้มงวดที่ขยายตัวเป็นวงกว้างนี้ หมายความว่าโรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดมากขึ้นโดยไม่มีการตรวจสอบ และมีแนวโน้มว่าประชาชนจะติดเชื้อหลายล้านคนต่อวัน

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้น จีนได้เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน โดยเริ่มยกเลิกระบบควบคุมโควิดที่เข้มงวดที่สุดในโลก ทั้งการล็อกดาวน์และการตรวจโรคในวงกว้าง เพื่อทำให้เศรษฐกิจที่ซบเซาเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศเต็มรูปแบบอีกครั้งในปีหน้า

ติดต่อโฆษณา!