ไทยพร้อมมาก! รับนักท่องเที่ยวจีน ไฟล์ทแรก 9 ม.ค.นี้ 200 คน เพียงฉีดวัคซีน 2 เข็ม และซื้อประกันกันสุขภาพ
Highlight
กระทรวงสาธารณสุขสรุปผลประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีนและทุกประเทศอย่างเต็มที่ เพียงฉีดวัคซีน 2 เข็มขึ้นไป และทำประกันสุขภาพ และเตรียมการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์โรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีพบการระบาดในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังเตรียมให้บริการวัคซีนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติหากมีความต้องการ โดยมีค่าใช้จ่ายในการรับวัคซีน คาดนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 25ล้านคนในปีนี้รวมจีน ในขณะที่หลายประเทศพยายามสกัดนักท่องเที่ยวจากจีน หวั่นแพร่เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณากำหนดหลักการและการขับเคลื่อนมาตรการควบคุมโควิด-19 ของประเทศไทยเพื่อรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ ปี 2566 ในภาพรวมตามที่คณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ได้ให้แนวทาง โดยจะไม่ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับโควิด-19 เพื่อกีดกันผู้เดินทางจากประเทศใด
โดยไทยมีมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ตามหลักวิชาการซึ่งเป็น World standard protocol โดยประเทศไทยจะต้อนรับและดูแลผู้มาเยือนจากทุกประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และขณะนี้ระบบสาธารณสุขของประเทศมีความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ มีการเตรียมความพร้อมหากพบการระบาดรุนแรงขึ้น แต่จะมีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การดูแลจัดการน้ำเสียจากเครื่องบิน รวมทั้งติดตามประเมินผลสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2566 เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป
สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งเสนอโดยกระทรวงสาธารณสุขมีดังนี้
-กรณีก่อนเข้าประเทศไทย จะต้องมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม
-หากมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ แนะนำให้เลื่อนการเดินทาง และรักษาให้หายก่อนเดินทางเข้าไทย
-ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการรักษาโควิด19 ก่อนเข้าไทย เพื่อลดภาระการใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพำนักในประเทศไทย
-คำแนะนำระหว่างพำนักในประเทศไทยนั้น จะมีการแนะนำให้ผู้เดินทางจากต่างประเทศป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในสถานที่สาธารณะ รถโดยสารสาธารณะ
-เน้นการตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีอาการ ล้างมือบ่อย ๆ
-การแนะนำให้ผู้เดินทางพักในโรงแรม SHA Plus ซึ่งจะมีบริการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
-จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์โรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน
-กรณีพบการระบาดในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ มีการเพิ่มกลไกการรายงานสถานการณ์ผ่านเว็บไซต์ การควบคุมโรค ที่เน้นแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวและตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการป่วยทางเดินหายใจที่สนามบิน
โดยมีการรายงานทุกสัปดาห์ มีการกำหนดเกณฑ์สำหรับการปรับมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อในอัตราสูงขึ้น หรือมีการกลายพันธุ์ และมีการเฝ้าระวัง ตรวจสายพันธ์เชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียจากเครื่องบิน
แนวทางการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกประเทศที่มีการติดเชื้อ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกประเทศที่มีการติดเชื้อ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการประสานงานเข้ารับการรักษา อาทิ
-ตำรวจท่องเที่ยว โทร 1155
-ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) โทร 02 134 4077
-สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (สทกจ.) ทุกจังหวัด
-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โทร 1672
การเตรียมแผนรองรับด้านการเดินทาง
ทางด้านกระทรวงคมนาคม ได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้สามารถรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศได้ เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาประมาณ 50-60% ของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ส่วนปัญหาความแออัดที่พบขณะนี้ เป็นเพียงเรื่องของการบริหารจัดการที่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเพิ่มผู้ปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับจำนวนผู้เดินทาง
โดยขณะนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งรัดเพิ่มศักยภาพในการให้บริการให้กลับสู่ภาวะปกติ ควบคู่กับการบริหารจัดการในช่วงเวลาเร่งด่วน และมีการเตรียมแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว สำหรับการให้บริการทั้งการเดินทางผ่านอากาศยาน การให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ณ ท่าอากาศยาน ระบบขนส่งสาธารณะในเมือง และการจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
บริการซื้อประกันสุขภาพ-วัคซีน ให้นักท่องเที่ยว
-จะไม่มีการกำหนดมาตรการแบบเลือกปฏิบัติกับประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะกำหนดให้สอดคล้องกับมาตรการของประเทศนั้นๆ เช่น หากประเทศใดมีการกำหนดว่าให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับประไทย ไทยก็อาจต้องมีการกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศนั้นต้องซื้อประกันสุขภาพเป็นต้น
-การให้วัคซีนแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะสัญชาติใด หากต้องการจะรับวัคซีนในไทย ก็จะมีการให้บริการเพื่อเน้นให้เห็นถึงการเป็นเมดิคอลฮับของไทย แต่จะไม่ใช่การให้บริการฟรี
กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดรายละเอียดข้อกำหนดเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ และการให้วัคซีน และประกาศให้ทราบต่อไป “คาดว่านักท่องเที่ยวจีนน่าจะเข้ามาไทยมากขึ้นในช่วงหลังตรุษจีน และเชื่อว่า ในช่วงโลว์ซีซั่น (เดือนเม.ย.-มิ.ย.) น่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนได้เต็มรูปแบบ ซึ่งทางการไทยพร้อมเต็มทุกรูปแบบ” นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว
คาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 300,000 รายใน Q1/66
คาดการณ์ว่าในเดือนม.ค. จะมีนักท่องเที่ยวจีน 60,000 คน เดือนก.พ. 90,000 คน และเดือนมี.ค. 1.5 แสนคน โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนปี 66 ที่ 5 ล้านคน และจะมีการขยับเป้านักท่องเที่ยวทั้งปีจากที่ 20 ล้านเป็น 25 ล้านคน หลังจากจีนเปิดประเทศ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุไฟล์ทแรกจากจีนเริ่ม 9 ม.ค.นี้ 200 คนจากตอนใต้ของจีน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากประเทศจีนประกาศเปิดประเทศ โดยผ่อนคลายมาตรการโควิดสำหรับผู้เดินทางเข้าจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
-เที่ยวบินจากจีนที่นำนักท่องเที่ยวทยอยเข้าไทยมาไฟล์ทแรกตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมนี้ เป็นเที่ยวบินที่มาจากเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของจีน ประมาณ 200 คน
-คาดว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะเข้ามาในเดือน ม.ค.จำนวน 60,000 คน เดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 90,000 คน เดือนมีนาคม 150,000 คน รวมไตรมาสแรก ปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 300,000 ราย
-การเพิ่มไฟล์ทบินจากประเทศจีนมายังไทย เบื้องต้นมองเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวจีนจะออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมพิจารณาการกระจายเที่ยวบินไปยังจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดภาคอีสาน
-เตรียมพิจารณาเจรจาขอเปิดเส้นทางบินคุณหมิง-หาดใหญ่ เพิ่มเพื่อรองรับความต้องการ
“ในช่วงโลว์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน - มิถุนายน ประเมินว่า ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง” นายพิพัฒน์ กล่าว
เทียบเคียงมาตรการของสหภาพยุโรปในการรับมือท่องเที่ยวจีน
- แนะนำให้ผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะไป หรือมาจากจีน ใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือ หน้ากาก FFP2/N95/KN95
- เน้นย้ำการปฏิบัติด้านสุขอนามัย การป้องกันตัว ให้แก่ผู้ที่เดินทางมาหรือไปที่จีน ทั้งในผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในเครื่องบินและในสนามบิน
- คนที่เดินทางจากจีนไปยังทุกประเทศในเครือสมาชิกสหภาพยุโรป จะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ โดยตรวจไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากจีน
- ให้แต่ละประเทศพิจารณาตามความเหมาะสม ในการดำเนินการสุ่มตรวจผู้โดยสารที่เดินทางจากจีน เมื่อมาถึงประเทศนั้นๆ และทำการตรวจสายพันธุ์ทุกรายที่ตรวจคัดกรองพบว่าติดเชื้อ
ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ
🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC