14 กุมภาพันธ์ 2566
700
วาเลนไทน์เงินสะพัด คึกคักในรอบ 3 ปี แบงก์ชาติเตือน ! รักบนโลกไซเบอร์ระวังโดนหลอก
Hilight
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พยากรณ์เม็ดเงินสะพัดในวันวาเลนไทน์กว่า 2,389 ล้านบาท คาดคู่รักออกเดทสุดคึกคักในรอบ 3 ปี หลังจากโควิดคลี่คลาย ส่วนใหญ่เตรียมฉลองนอกบ้าน ด้านกรมอนามัยห่วงคุณแม่วัยรุ่นเพิ่มจำนวน โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ซึ่งในปี 2564 จำนวนเด็กวัยรุ่นต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกถึง 52.6% โดยไม่เรียนต่อ ด้านแบงก์ชาติห่วง มิจฉาชีพล่อลวงผ่านโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่ม Romance Scam
ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ ปี 2566 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด 2,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.5% เรียกว่าคึกคักสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2563 ที่ประเทศไทยเริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-19
- โดยกลุ่มตัวอย่าง 49.2% ต้องการจะไปฉลองวาเลนไทน์กับคนรัก ที่ห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ และร้านอาหาร จากผลสำรวจนี้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ก็เดินทางมาร่วมฉลองวาเลนไทน์ในประเทศไทยอีกด้วย เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจมีการหมุนเวียนดีขึ้น
- ผลสำรวจระบุอีกว่า ขณะที่การฉลองวาเลนไทน์ของคู่รักทุกช่วงวัยเลือกการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 30% เป็นกลุ่มนักศึกษามากสุด
- รองลงมา คือกลุ่มวัยทำงานและนักเรียน โดยใช้หอพัก หรืออพาร์ตเมนต์ ซึ่งกลุ่มที่ตอบคำถามทุกเจน กว่า 70% ยอมรับได้หากคู่แต่งงานเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อย่างไรก็ตามจำนวน 29.5% ที่ยอมรับไม่ได้
- กรมอนามัยพบว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษาในระบบโรงเรียนตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น โดยปี 2564 คิดเป็น 47.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีเพียง 28%
- แม่วัยรุ่นที่คลอดแล้วในปี 2564 อยู่บ้านเลี้ยงลูกถึง 52.6% โดยไม่เรียนต่อ ซึ่งปัจจุบันสถานศึกษาหลายแห่งอนุโลมให้เรียนต่อที่เดิมได้แล้ว
- ที่น่าเป็นห่วงพบว่าเยาวชนอายุ 15-24 ปีเป็น “โรคซิฟิลิส” อัตราป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 50.5 ต่อแสนประชากร ในปี 2564 จากที่ปี 2561 ป่วยเพียง 27.9 ต่อแสนประชากร เพราะไม่ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดปัญหาท้องในวัยรุ่น ทำแท้งไม่ปลอดภัย
- ล่าสุดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ทำโครงการ "เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ‘แจกยาคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย’ และให้หญิงไทยทุกอายุที่จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์จากภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย โดยนำร่องที่ “เมืองพัทยา” ติดตั้งตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ สามารถลงทะเบียนใช้สิทธิบัตรทองผ่านแอป เป๋าตัง รับบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนว่า วาเลนไทน์ทั้งที อยากให้ทุกคนมีความรักที่ดี ตรวจสอบให้ถ้วนถี่ว่านี่ไม่ใช่มิจฉาชีพ !
- พูดคุยกับคนแปลกหน้าทางออนไลน์ อย่าเชื่อคนง่าย อย่าโอนเงินให้ใครเป็นอันขาด และไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร
- นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.พ. หรือวันแห่งความรักของทุกปี จะมีมิจฉาชีพที่แอบแฝงในโลกออนไลน์ซึ่งจำนวนมากใช้ความรักหรือความอ่อนไหวของเป้าหมายหลอกลวง ทั้งประสงค์ต่อทรัพย์และอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย รัฐบาลจึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังภัยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันแห่งความรักนี้
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงสถิติอาชญากรรมออนไลน์ประจำเดือน ม.ค. 66 จากศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับการหลอกให้รักยังสูงถึง 403 คดี โดยแบ่งเป็นคดีประเภทหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน จำนวน 168 เรื่อง และคดีหลอกลวงให้รักแล้วลงทุน จำนวน 235 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 190 ล้านบาท
- สำหรับภัยออนไลน์เกี่ยวกับความรักหรือ Romance Scams จะเป็นการใช้เทคนิคทางจิตวิทยาพัฒนาความสัมพันธ์กับเป้าหมายสร้างความเชื่อใจระหว่างบุคคล แล้วทำการหลอกลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น
- หลอกให้รักแล้วโอนเงิน
- หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน
- หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท ควบคุมสมาร์ทโฟนและทำการดูดเงินในบัญชี
- หลอกให้รักแล้วแบล็กเมล์ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่น ๆ
- ประชาชนที่มีความสงสัยหรือกำลังเกรงว่าตนเองอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000
- หากเป็นผู้เสียหายประสงค์จะแจ้งความ สามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงต่างๆที่ pctpr.police.go.th
ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ
🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC