นักลงทุนคาดเฟดจะปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.5% ในเดือนนี้ แตะระดับ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนคาดเฟดจะปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.5% ในเดือนนี้ แตะระดับ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย.
Highlight

จากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ ทำให้นักวิเคราะห์กลับมาให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงอีกครั้ง จากเดิม 0.25% ในเป็น 0.5% ในรอบนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดที่ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย. นี้

  • หลังจากที่นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในวันนี้ (8 มี.ค.)

  • โดยนักลงทุนคาดว่า และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย. รวมทั้งเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

  • ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (8 มี.ค) เมื่อเวลา 10.56 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,606.69 จุด -0.73% มูลค่าการซื้อขายรวม 1.9 หมื่นล้านบาท

  • ทั้งนี้การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อควบคุมเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายที่ 2%

  • โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 32.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

  • ก่อนหน้าที่นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงในคืนวันอังคารที่ 7 มี.ค. นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 68.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนักเพียง 31.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

  • นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง

"ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เราก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"

"แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง หลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว แต่กระบวนการทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกล และไม่ราบรื่นโดยภารกิจในการต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดยังคงไม่สิ้นสุด และเฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง” นายพาวเวลกล่าว

  • ถ้อยแถลงของนายพาวเวลบ่งชี้ว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนที่แล้ว อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

  • ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเตรียมกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 8 มี.ค.นี้

  • ตลาดอาจจะผันผวนเพื่อจับหาทิศทางข้อบ่งชี้ก่อนถึงการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.

  • อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ระดับใด และย้ำว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง รวมทั้งข้อมูลที่เฟดได้รับ โดยเฟดจะพิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยที่จะมีต่อเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเฟดจะไม่มีการกำหนดล่วงหน้าสำหรับทิศทางนโยบายการเงิน

บริษัทหลักทรัพย์ InnovestX ชี้หลังจากประธานเฟด เจอโรม เพาเวลล์แถลงต่อหน้าสภาคองเกรสเมื่อวันอังคารส่งผลให้

1. เส้นอัตราผลตอบแทน 2s10s ต่ำกว่า -100 bps (inverted yield curve) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1980 โดยยิลพันธบัตร 2 ปี เพิ่มสูงขึ้นกว่า 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007

2. ตลาดฟิวเจอร์สของเฟดฟันด์สะท้อนว่า Terminal rate ขึ้นไปได้สูงถึง 5.6%

3. ดัชนี S&P 500 ร่วงหลุดระดับ 4,000 ปรับตัวลดลง 1.5% มาอยู่ที่ 3,986 จุด

4. ค่าเงิน USD (dollar index) ปรับตัวแข็งค่าขึ้น 1.2% มาอยู่ที่ข 105.6 โดยค่าเงินญี่ปุ่นอ่อนค่าไปอยู่ที่ 137 yen/usd ส่วนค่าเงินหยวนอ่อนค่ามาที่ระดับ 7.1 หยวนต่อเหรียญสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้คำแถลงของปธ.เฟด ยังสะท้อนความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อและการเติบโตที่ค่อนข้างแข็งแรงกว่าที่คาด และเปิดทางว่าเฟดอาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นแรงกว่าเดิม (50 bp)

  • InnovestX แนะนำเพิ่มน้ำหนักการถือครองเงินสด, และการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะที่แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรป จากความผันผวนที่จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดจะปรับความคาดหวังของดอกเบี้ย

  • นโยบายสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และผลกำไรของบริษัทจัดการในที่สุด



ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC
ติดต่อโฆษณา!