แบงก์ชาติสวิสเข้าช่วยเหลือธนาคารเครดิตสวิสแล้ว 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์
Highlight
หลังจากธนาคารกลางสวิส หรือ SNB ประกาศในวันนี้ (16 มี.ค.) โดยเข้าช่วยเหลือสภาพคล่องของธนาคารเครดิตสวิสวงเงินสูงถึง 5 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (5.368 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปพลิกฟื้นกลับมาราว 2% ทันที ทั้งนี้เพื่อลดข้อจำกัดที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ Saudi National Bank ติดเพดานการเพิ่มทุนเกิน 10% ตามกฏหมาย ธนาคารเครดิต สวิส เป็นธนาคารที่เก่าแก่ถึง 167 ปี มีสินทรัพย์ราว 6 แสนล้านดอลลาร์มีการทำธุรกิจไปทั่วโลก หากปล่อยล้มจะสร้างความเสียหายอย่างหนัก
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารเครดิต สวิส ประกาศในวันนี้ (16 มี.ค.) ว่าธนาคารเครดิตสวิส จะกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์เป็นวงเงินสูงถึง 5 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (5.368 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้แบบครอบคลุมและการจัดหาสภาพคล่องในระยะสั้น (Covered loan facility and a short-term liquidity facility)
“การกู้ยืมดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักของเครดิต สวิส และลูกค้าของธนาคาร ในขณะที่เครดิต สวิสเองก็จะดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า” เครดิต สวิสระบุ
- นอกจากนี้ เครดิต สวิสเปิดเผยว่า ธนาคารกำลังทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไป (tender offer) ซึ่งได้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์สกุลเงินดอลลาร์จำนวน 10 ชุด วงเงินรวมกันไม่เกิน 2.5 พันล้านดอลลาร์ รวมทั้งทำ tender offer หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์สกุลเงินยูโรจำนวน 4 ชุด วงเงินรวมกันไม่เกิน 500 ล้านยูโร
- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเครดิต สวิส เกิดขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และ FINMA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ให้คำมั่นว่าจะจัดหาสภาพคล่องเพื่อช่วยเหลือธนาคารเครดิต สวิส หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น
- ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือธนาคารเครดิต สวิส หลังจากราคาหุ้นของธนาคารแห่งนี้ทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการเงิน หลังจากขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.32 พันล้านฟรังก์ ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์ นอกจากนี้ ลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากจากเครดิต สวิส มากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบและความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี
“Credit Suisse” too big to fall
- ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟสบุ๊ก ถึงกรณี ธนาคารเครดิตสวิสที่ส่อแววล้มละลายเป็นรายต่อไปว่า
- ธนาคารชาติเครดิสสวิส (SNB) คงไม่สามารถปล่อยให้ล้มได้ ในที่สุดก็เข้าช่วยหลังจากที่ กดดันตลาดมาทั้งวัน จากราคาที่ร่วงลงเรื่อยๆ จนหุ้น Credit Suisse ทรุดลงไปมากกว่า 30% ใน 1 วัน !!! และจากจุดสูงสุดลดลงถึง 98%
สุดท้าย ธนาคารกลางสวิส (SNB) และผู้กำกับสถาบันการเงินสวิส (FINMA) ประกาศพร้อมช่วยเหลือ Credit Suisse
- FINMA is in very close contact with the bank and has access to all information relevant to supervisory law. Against this background, FINMA confirms that Credit Suisse meets the higher capital and liquidity requirements applicable to systemically important banks. In addition, the SNB will provide liquidity to the globally active bank if necessary.
- FINMA ได้ติดตามหารือกับ Credit Suisse อย่างใกล้ชิด และได้ดูข้อมูลของธนาคารในมิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กฏหมายกำกับสถาบันการเงินได้กำหนดไว้ FINMA ขอยืนยันว่าฐานะการเงินของ Credit Suisse ทั้งเงินทุนและสภาพคล่องยังเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และหากจำเป็น ธนาคารกลางสวิสจะจัดสภาพคล่องที่ต้องการให้กับ Credit Suisse
ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่า
- Credit Suisse เป็นธนาคารที่สำคัญกว่า Silicon Valley Bank มาก
- มีขนาดสินทรัพย์ประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์
- เป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิส
- มีอายุ 167 ปี ฝังรากลึก
- มีโครงข่าย เชื่อมโยงกับธนาคารต่างๆในยุโรป ในสหรัฐฯ อย่างลึกซึ้ง
- ใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้ม
เพียงผลจากเมื่อคืนนี้ แค่ความกังวลใจ ก็ทำให้หุ้นธนาคารอื่นๆ ในยุโรปก็ร่วงตามเป็นแถว ๆ เช่น
Societe Generale -12.2%
BNP Paribas -10.1%
ING -9.6%
BBVA -9.6%
- ตลาดหุ้นตกกระจายไปทั้งภูมิภาค ตลาดหุ้นอังกฤษ สเปน อิตาลี ตกไปประมาณ 4% ใน 1 วัน กระทั่งธนาคารกลางอังกฤษ ก็ต้องจัดประชุมฉุกเฉินกับกลุ่มธนาคารกลางอื่น ๆ เพื่อหารือแนวทางที่จะดูแล
- ทั้งนี้ แม้ Credit Suisse มีปัญหาเฉพาะในหลายๆ เรื่อง ต่างจากธนาคารอื่นๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งกรณีของสหรัฐฯ และยุโรป ชี้ไปถึงความเปราะบางในระบบสถาบันการเงินโลกที่เพิ่มขึ้นมาก
- จากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว เกินคาด มา 1 ปีเต็ม ๆ ของธนาคารกลาง ทำให้สถาบันการเงินจำนวนมาก จัดการความเสี่ยงได้ไม่หมด มีความเสียหายซ่อนไว้ใน Port พันธบัตรที่ถือ จากการลงทุนที่ไปลงไว้
- ยิ่งเมื่อเศรษฐกิจซบเซาลง จากหนี้เสียต่างๆ ก็จะอ่อนแอลงไปเพิ่มทำให้ทุกคนพร้อมวิ่ง เมื่อมีประเด็นเกิดขึ้น
- ดังเช่นกรณี Credit Suisse เมื่อคืนนี้ เริ่มจากการสัมภาษณ์ธรรมดา ๆ ที่ Saudi National Bank ตอบว่า ได้ลงทุนไปที่ 9.9% ของหุ้น Credit Suisse แล้ว หากเกิน 10% ก็จะเข้าสู่เกณฑ์ใหม่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่สามารถลงเงินเพิ่มได้
แต่ข่าวที่ออกมา พาดหัวว่า "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Credit Suisse ปฏิเสธที่จะลงเงินต่อ ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเพิ่ม"
- เนื่องจาก Credit Suisse มีแผลอยู่แล้ว คนจับตามองอยู่แล้ว มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่ตามมาจากคำพูดสั้นๆ ดังกล่าว จึงกลายเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เกินคาด
- สะเทือนไปทั่วโลก แต่ท้ายสุด เนื่องจาก Credit Suisse ใหญ่เกินไป สำคัญเกินไป ให้ล้มไม่ได้ !!!
- ทางการจึงต้องเข้ามาดูแล ไม่มีทางเลือก เมื่อคืน ถือเป็นก้าวแรก ประกาศช่วยเรื่องสภาพคล่อง ต่อไป หากจำเป็น คงต้องประกาศอุ้มผู้ฝากให้ชัดเจน
- และท้ายสุด หากจำเป็นจริง ๆ คงต้องคิดหาทางออก เพื่อหาทางให้ Credit Suisse กลับมามีเงินทุนที่เข้มแข็งอีกครั้ง เพื่อให้ผ่านไปได้ แต่ล้มไม่ได้
- ระหว่างทาง โลกก็จะพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย อย่างไรก็ตาม กรณี Credit Suisse คงไม่ใช่กรณีสุดท้าย สถาบันการเงินต่างๆ คงก็จะต้องรับกับแรงกระแทก แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นไปอีกระยะ
- เพราะธนาคารกลางหลักหลายประเทศ ยังสู้ศึกเงินเฟ้อไม่จบ นำมาซึ่งบทใหม่ของ Perfect Storm ที่ลุกลามไปภาคสถาบันการเงิน
- ที่อ่อนไหว เปราะบางมากขึ้น ยิ่งข่าวสารสมัยนี้ ไปไว ธุรกรรมทางการเงินก็แค่ปลายนิ้วจิ้ม ในการถอนเงิน โอนเงิน ขายหุ้น เก็งกำไร ความปั่นป่วนต่าง ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย กระเทือนเป็นลูกโซ่ เป็นทอด ๆ รวมถึงประเทศไทย
- แต่ด้วยพื้นฐานของไทยเราที่ดีพอ เราน่าจะผ่านไปได้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ นายกอบศักดิ์ระบุ
ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ
🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC