28 กันยายน 2566
463
นายกฯ เยือน กัมพูชา ยืนยันความใกล้ชิดและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย - กัมพูชา ทุกมิติ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในวันนี้ (28 ก.ย. 66) จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญภายหลังเสร็จสิ้นการหารือว่า ก่อนการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างแสดงความยินดีต่อกันในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกฯในช่วงเดียวกัน และมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในทิศทางเดียวกัน โดยต่างย้ำมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ และเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์
ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองประกาศยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และนายกรัฐมนตรีไทยขอเชิญนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเยือนไทยด้วย
สำหรับประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ได้หารือร่วมกันคือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นพ้องตรงกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือมากยิ่งขึ้น ทั้งการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน และภาคเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกันอำนวยความสะดวกและเพิ่มปริมาณการค้าให้บรรลุเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568
รวมถึงการผลักดันการขนส่งข้ามแดน เร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพที่บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การยกระดับจุดผ่านแดน และร่วมกันในเศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว
ในด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ไทยและกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ พร้อมทั้งขอให้กัมพูชาอนุญาตให้ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน
ส่วนการลงทุน ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น รวมถึงเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจับคู่ธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่
ด้านความมั่นคง นายชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กัมพูชาจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee : JBC) ครั้งต่อไป เพื่อเดินหน้ายกระดับจุดผ่านแดน เพิ่มปริมาณการค้าชายแดน และยังได้เสนอให้ทั้งสองประเทศเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามพื้นที่ชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และปูทางการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณชายแดน
โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า คณะทำงานของทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันติดตามผล และนำการหารือของผู้นำทั้งสองในวันนี้ไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำกลับมารายงานให้ทราบ
นายชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง อาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน พร้อมย้ำถึงการทำงานและความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายชัยกล่าวว่า ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาที่แข็งแกร่งระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพร้อมที่จะทำงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา เพื่อช่วยกันติดตามข่าวปลอม (Fake News) ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน เพื่อดำเนินการป้องกันอย่างทันท่วงทีเมื่อจำเป็น
จากนั้นนายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญภายหลังเสร็จสิ้นการหารือว่า ก่อนการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างแสดงความยินดีต่อกันในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกฯในช่วงเดียวกัน และมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในทิศทางเดียวกัน โดยต่างย้ำมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ และเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์
ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองประกาศยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และนายกรัฐมนตรีไทยขอเชิญนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเยือนไทยด้วย
สำหรับประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ได้หารือร่วมกันคือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นพ้องตรงกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือมากยิ่งขึ้น ทั้งการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน และภาคเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกันอำนวยความสะดวกและเพิ่มปริมาณการค้าให้บรรลุเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568
รวมถึงการผลักดันการขนส่งข้ามแดน เร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพที่บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การยกระดับจุดผ่านแดน และร่วมกันในเศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว
ในด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ไทยและกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ พร้อมทั้งขอให้กัมพูชาอนุญาตให้ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน
ส่วนการลงทุน ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น รวมถึงเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจับคู่ธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่
ด้านความมั่นคง นายชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กัมพูชาจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee : JBC) ครั้งต่อไป เพื่อเดินหน้ายกระดับจุดผ่านแดน เพิ่มปริมาณการค้าชายแดน และยังได้เสนอให้ทั้งสองประเทศเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามพื้นที่ชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และปูทางการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณชายแดน
โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า คณะทำงานของทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันติดตามผล และนำการหารือของผู้นำทั้งสองในวันนี้ไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำกลับมารายงานให้ทราบ
นายชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง อาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน พร้อมย้ำถึงการทำงานและความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายชัยกล่าวว่า ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาที่แข็งแกร่งระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพร้อมที่จะทำงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา เพื่อช่วยกันติดตามข่าวปลอม (Fake News) ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน เพื่อดำเนินการป้องกันอย่างทันท่วงทีเมื่อจำเป็น