02 ธันวาคม 2566
828
จีนกลัวการเที่ยว ไทย เมียนมา กัมพูชา จากอิทธิพลหนัง “No Mores Bets”
การสำรวจบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน Weibo เปิดเผยว่า 85% ของชาวจีนที่ทำการสำรวจจาก 54,000 คนจะไม่เดินทางไปประเทศในกลุ่มอาเซียนเพราะกลัวความปลอดภัยหลังจากภาพยนตร์แอคชั่นของจีนออกฉาย
ภาพยนตร์แอ็คชั่นอาชญากรรมเรื่อง "No More Bets" ซึ่งครองอันดับสูงสุดในบ็อกซ์ออฟฟิศของจีนนับตั้งแต่ออกฉายเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ได้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการเข้าหารือพบปะกับเอกอัครราชทูตจีน หาน จือเฉียง
ภาพของเมียนมาร์และกัมพูชาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยกัมพูชาสั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายภาพธุรกิจที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงการค้ามนุษย์ การค้าอวัยวะ การหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งกรรโชกทรัพย์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการรับรู้ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีน
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทำในประเทศไทย แต่ก็มีการใช้ภาษาไทยในบางฉาก ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo
รัฐบาลไทยหวังว่าทางการจีนจะสร้างความมั่นใจให้กับชาวจีนเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเน้นย้ำถึงมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดของประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยว นางพวงเพชร ระบุ
จีนเป็นตลาดต้นทางที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 11 ล้านคนในช่วงก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562 คิดเป็นมากกว่าหนึ่งในสี่ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปีนั้น
แต่ประเทศไทยไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกต่อไปจากการสำรวจความรู้สึกด้านการเดินทางรายไตรมาสที่เผยแพร่โดยบริษัทการตลาดดิจิทัลในสิงคโปร์อย่าง China Trading Desk ซึ่งได้สำรวจชาวจีนมากกว่า 10,000 คนเกี่ยวกับแผนการเดินทางระหว่างประเทศที่กำลังจะมีขึ้น
จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศประมาณ 3.01 ล้านคนในปีนี้
ทั้งนี้ ไทยซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 3.4 - 3.5 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 5 ล้านคน
ภาพยนตร์แอ็คชั่นอาชญากรรมเรื่อง "No More Bets" ซึ่งครองอันดับสูงสุดในบ็อกซ์ออฟฟิศของจีนนับตั้งแต่ออกฉายเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ได้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการเข้าหารือพบปะกับเอกอัครราชทูตจีน หาน จือเฉียง
ภาพของเมียนมาร์และกัมพูชาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยกัมพูชาสั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายภาพธุรกิจที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงการค้ามนุษย์ การค้าอวัยวะ การหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งกรรโชกทรัพย์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการรับรู้ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีน
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทำในประเทศไทย แต่ก็มีการใช้ภาษาไทยในบางฉาก ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo
รัฐบาลไทยหวังว่าทางการจีนจะสร้างความมั่นใจให้กับชาวจีนเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเน้นย้ำถึงมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดของประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยว นางพวงเพชร ระบุ
จีนเป็นตลาดต้นทางที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 11 ล้านคนในช่วงก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562 คิดเป็นมากกว่าหนึ่งในสี่ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปีนั้น
แต่ประเทศไทยไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกต่อไปจากการสำรวจความรู้สึกด้านการเดินทางรายไตรมาสที่เผยแพร่โดยบริษัทการตลาดดิจิทัลในสิงคโปร์อย่าง China Trading Desk ซึ่งได้สำรวจชาวจีนมากกว่า 10,000 คนเกี่ยวกับแผนการเดินทางระหว่างประเทศที่กำลังจะมีขึ้น
จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศประมาณ 3.01 ล้านคนในปีนี้
ทั้งนี้ ไทยซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 3.4 - 3.5 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 5 ล้านคน