03 ธันวาคม 2566
485
สิงคโปร์ - ซูริค เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกปี 2023
The Economist Intelligence Unit (EIU) หน่วยธุรกิจวิจัยของ The Economist เผยแพร่รายงานค่าครองชีพทั่วโลกประจำปี 2023 หรือ Worldwide Cost of Living 2023 โดยเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการมากกว่า 200 รายการ จาก 400 จุดการสำรวจ ใน 173 เมื่องทั่วโลก ในช่วงวันที่ 14 ส.ค. ถึง 11 ก.ย. 2023
บทวิจัยชี้ว่า สิงคโปร์ครองแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงสุดในโลก เนื่องจากราคาของอุปโภค บริโภค เช่น แอลกอฮอล์ เสื้อผ้า รถยนต์รถส่วนตัว กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำล้วนราคาสูง รวมทั้งสกุลเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ซูริคไต่อันดับตามมาติด ๆ และฮ่องกง ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 5
สิงคโปร์เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีศูนย์กลางทางการเงินที่ประสบความสําเร็จ Syetarn Hansakul นักวิเคราะห์อาวุโสของ EIU กล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่า หลายเมืองในประเทศจีนเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองที่มีการเปลี่ยนอันดับมากที่สุด โดยสาเหตุหลักมาจากการที่จีนฟื้นตัวช้าหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง
สำหรับสหรัฐฯ ติด Top 10 เพียง 3 เมืองเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นิวยอร์ก ซิตี้” ที่ร่วงจากอันดับ 1 ลงเป็นอันดับที่ 3 ร่วม แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ เผชิญเงินเฟ้อสูง เป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงสู้เงินเฟ้อจนสะเทือนไปทั้งโลก ขณะที่เมืองในญี่ปุ่นค่าครองชีพถูกลง และอันดับร่วงลงมาก เพราะเงินเยนอ่อนค่า
โดยภาพรวม EIU ระบุว่าราคาสินค้าและบริการโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.4% ผลกระทบด้านอุปทานที่ผลักดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในปี 2021-2022 ได้ลดลงแล้วนับตั้งแต่จีนยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ในปลายปี 2022 ราคาพลังงานที่เคยพุ่งสูงขึ้นหลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็ผ่อนคลายลงแล้วเช่นกัน
ในระยะถัดไป คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะชะลอตัวลงอีกในปี 2024 และจะทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกผ่อนคลายลง แต่เตือนว่าการยกระดับในสงครามอิสราเอล - ฮามาสอาจทําให้ราคาพลังงานสูงขึ้น รวมทั้งภาวะเอลนีโญที่รุนแรงขึ้นอาจทําให้ราคาอาหารสูงขึ้นได้เช่นกัน
สำหรับ 10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกในปี 2023 นี้ ได้แก่
*เทลอาวีฟ อิสราเอลก็อยู่ใน 10 อันดับแรกเช่นกัน แต่ EIU ตั้งข้อสังเกตว่าการ สํารวจดังกล่าวดําเนินการก่อนสงคราม Israel-Hamas ปะทุขึ้น
บทวิจัยชี้ว่า สิงคโปร์ครองแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงสุดในโลก เนื่องจากราคาของอุปโภค บริโภค เช่น แอลกอฮอล์ เสื้อผ้า รถยนต์รถส่วนตัว กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำล้วนราคาสูง รวมทั้งสกุลเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ซูริคไต่อันดับตามมาติด ๆ และฮ่องกง ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 5
สิงคโปร์เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีศูนย์กลางทางการเงินที่ประสบความสําเร็จ Syetarn Hansakul นักวิเคราะห์อาวุโสของ EIU กล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่า หลายเมืองในประเทศจีนเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองที่มีการเปลี่ยนอันดับมากที่สุด โดยสาเหตุหลักมาจากการที่จีนฟื้นตัวช้าหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง
สำหรับสหรัฐฯ ติด Top 10 เพียง 3 เมืองเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นิวยอร์ก ซิตี้” ที่ร่วงจากอันดับ 1 ลงเป็นอันดับที่ 3 ร่วม แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ เผชิญเงินเฟ้อสูง เป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงสู้เงินเฟ้อจนสะเทือนไปทั้งโลก ขณะที่เมืองในญี่ปุ่นค่าครองชีพถูกลง และอันดับร่วงลงมาก เพราะเงินเยนอ่อนค่า
โดยภาพรวม EIU ระบุว่าราคาสินค้าและบริการโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.4% ผลกระทบด้านอุปทานที่ผลักดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในปี 2021-2022 ได้ลดลงแล้วนับตั้งแต่จีนยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ในปลายปี 2022 ราคาพลังงานที่เคยพุ่งสูงขึ้นหลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็ผ่อนคลายลงแล้วเช่นกัน
ในระยะถัดไป คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะชะลอตัวลงอีกในปี 2024 และจะทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกผ่อนคลายลง แต่เตือนว่าการยกระดับในสงครามอิสราเอล - ฮามาสอาจทําให้ราคาพลังงานสูงขึ้น รวมทั้งภาวะเอลนีโญที่รุนแรงขึ้นอาจทําให้ราคาอาหารสูงขึ้นได้เช่นกัน
สำหรับ 10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกในปี 2023 นี้ ได้แก่
อันดับ 1 : สิงคโปร์ (สิงคโปร์)
อันดับ 2 : ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
อันดับ 3 : เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์)
อันดับ 3 : นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา)
อันดับ 5 : ฮ่องกง (เขตปกครองพิเศษของจีน)
อันดับ 6 : ลอสแอนเจลิส (สหรัฐอเมริกา)
อันดับ 7 : ปารีส (ฝรั่งเศส)
อันดับ 8 : โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
อันดับ 8 : เทลอาวีฟ (อิสราเอล)
อันดับ 10 : ซานฟรานซิสโก (สหรัฐอเมริกา)
*เทลอาวีฟ อิสราเอลก็อยู่ใน 10 อันดับแรกเช่นกัน แต่ EIU ตั้งข้อสังเกตว่าการ สํารวจดังกล่าวดําเนินการก่อนสงคราม Israel-Hamas ปะทุขึ้น