31 ธันวาคม 2566
558
ภัยออนไลน์ ยอดเสียหายกว่า 5 หมื่นล้าน ผู้สูงวัย เหยื่อเบอร์ต้นโจรไซเบอร์
บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS ระบุข้อมูลของตำรวจไซเบอร์พบว่า ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 ถึง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 มีมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยไซเบอร์รวมมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท สะท้อนระดับความเสี่ยงที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโลกออนไลน์กำลังเผชิญอยู่ในทุก ๆ วัน
สถิติจากตำรวจไซเบอร์ยังชี้ให้เห็นว่า รูปแบบของปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยังคงโดนหลอกลวงจากมิจฉาชีพ เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราคุ้นเคยกันอย่างมากในชีวิตประจำวัน เช่น
การหลอกให้ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ ถือเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสูญเสียเงินไปกว่า 2,306 ล้านบาท
ตามมาด้วยหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานเสริม และหลอกให้กู้เงิน
ประกอบกับข้อมูลจากสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center พบว่า มีลูกค้าแจ้งเบอร์โทร และ SMS ที่คาดว่าจะเป็นมิจฉาชีพกว่า 1.6 ล้านครั้งตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งได้มีการตรวจสอบและนำไปสู่การจับกุมมิจฉาชีพได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดที่วัดระดับทักษะด้านดิจิทัลของคนไทย อย่าง Thailand Cyber Wellness Index ของปี 2023 ที่ริเริ่มจัดทำโดย AIS ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุดข้อมูลที่สำคัญ ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมและความเข้าใจการใช้งานและรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ในมิติต่างๆ
กลุ่มผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ และทักษะการใช้งานด้านดิจิทัล
คนไทยภาคเหนือ และภาคตะวันตก มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์มากกว่าภาคอื่นๆ จากผลการศึกษาถึงระดับทักษะดิจิทัล
คนไทยส่วนใหญ่กว่า 87.97% มีความเข้าใจ และรู้ทันปัญหาการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ หรือ ไซเบอร์บูลลี่
สำหรับทักษะสำคัญต่อการรับมือกับภัยไซเบอร์ ที่คนไทยยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม ซึ่งแน่นอนว่าการมีทักษะดิจิทัลเหล่านี้ จะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันและสามารถรับมือกับภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานได้
จากผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล ประกอบกับตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงจากการโดนหลอกลวง ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเสริมสร้าง พัฒนาทักษะดิจิทัล เพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ใช้งานในทุกมิติ เช่น
สถิติจากตำรวจไซเบอร์ยังชี้ให้เห็นว่า รูปแบบของปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยังคงโดนหลอกลวงจากมิจฉาชีพ เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราคุ้นเคยกันอย่างมากในชีวิตประจำวัน เช่น
การหลอกให้ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ ถือเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสูญเสียเงินไปกว่า 2,306 ล้านบาท
ตามมาด้วยหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานเสริม และหลอกให้กู้เงิน
ประกอบกับข้อมูลจากสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center พบว่า มีลูกค้าแจ้งเบอร์โทร และ SMS ที่คาดว่าจะเป็นมิจฉาชีพกว่า 1.6 ล้านครั้งตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งได้มีการตรวจสอบและนำไปสู่การจับกุมมิจฉาชีพได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดที่วัดระดับทักษะด้านดิจิทัลของคนไทย อย่าง Thailand Cyber Wellness Index ของปี 2023 ที่ริเริ่มจัดทำโดย AIS ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุดข้อมูลที่สำคัญ ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมและความเข้าใจการใช้งานและรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ในมิติต่างๆ
กลุ่มผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ และทักษะการใช้งานด้านดิจิทัล
คนไทยภาคเหนือ และภาคตะวันตก มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์มากกว่าภาคอื่นๆ จากผลการศึกษาถึงระดับทักษะดิจิทัล
คนไทยส่วนใหญ่กว่า 87.97% มีความเข้าใจ และรู้ทันปัญหาการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ หรือ ไซเบอร์บูลลี่
สำหรับทักษะสำคัญต่อการรับมือกับภัยไซเบอร์ ที่คนไทยยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม ซึ่งแน่นอนว่าการมีทักษะดิจิทัลเหล่านี้ จะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันและสามารถรับมือกับภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานได้
จากผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล ประกอบกับตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงจากการโดนหลอกลวง ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเสริมสร้าง พัฒนาทักษะดิจิทัล เพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ใช้งานในทุกมิติ เช่น
ทักษะการใช้ดิจิทัล (Digital Use)
ทักษะการรู้เท่าทันดิจิทัล (Digital Literacy)
ทักษะด้านการสื่อสารและการทำงานร่วมกันบนดิจิทัล (Digital Communication and Collaboration)
ทักษะด้านสิทธิทางดิจิทัล (Digital Rights)
ทักษะด้านความมั่นคงความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security and Safety)
ทักษะด้านการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying)
ทักษะด้านความสัมพันธ์ทางดิจิทัล (Digital Relationship) เพื่อยกระดับสุขภาวะและทักษะดิจิทัลของคนไทย ให้สามารถใช้งานบนออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์