03 มกราคม 2567
2,914
ยอดป่วยโควิดพุ่ง หลังเทศกาลปีใหม่ คาดเป็นสายพันธุ์ JN.1
นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan เตือนว่ายอดติดเชื้อโควิดจะเพิ่มขึ้นอีกรอบหลังเทศกาลปีใหม่และคงจะเป็นสายพันธุ์ JN.1 ที่ระบาดหนักอยู่ในสหรัฐ ในขณะนี้
นพ.ยง ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่หลังเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลอง และหยุดยาวถึง 4 วัน จะมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เป็นที่น่าวิตกและจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนกุมภาพันธ์และจะน้อยมากหรือสงบหลังจากนั้น
โควิดที่แพร่ระบาดคงหลีกหนีสายพันธุ์ใหม่ JN.1 ไม่พ้น สายพันธุ์นี้เป็นลูกของ BA.2.86 ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น และประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานที่เคยติดเชื้อแล้ว และจากวัคซีน ทำให้อาการของโรคไม่ได้มากไปกว่าไข้หวัดใหญ่ และโอกาสลงปอดน้อยมาก ๆ
สิ่งที่ควรปฏิบัติและต้องทำในระยะนี้ คือ เข้มงวดมาตรการป้องกัน เช่น ใส่หน้ากากอนามัยในที่ชุมชนหรือคนหมู่มาก ล้างมือด้วยสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์อยู่เป็นนิจ
ส่วนวัคซีน สายพันธุ์ล่าสุดขณะนี้ที่มีใช้กัน จะเป็น XBB.1.5 ชนิดสายพันธุ์เดียว monovalent vaccine ยังไม่มีในประเทศไทย และประเทศไทยก็กำลังจะสิ้นสุดฤดูกาลระบาดในปีนี้ และจะไประบาดใหม่ในเดือนมิถุนายน การฉีดวัคซีนจึงยังรอได้ รอไว้ต้นการระบาดครั้งใหม่ค่อยตัดสินใจ
สายพันธุ์ที่พบทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นสายพันธุ์ JN.1 ในฤดูกาลหน้าก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ที่อยู่ในวัคซีนได้ทันหรือไม่
ศูนย์ข้อมูล ไทยรู้สู้โควิด เปิดเผยจำนวน ผู้ป่วยสะสม 38,457 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566) เสียชีวิตสะสม 848 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566) ผู้ป่วยปอดอักเสบ 120 รายผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 74 ราย
สำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์ JN.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน เป็น “สายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ” (Variants of Interest) เนื่องจาก “จำนวนผู้ป่วยที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว”
ตอนนี้ มีการพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ JN.1 แล้วในหลายประเทศ เช่น อินเดีย, จีน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และไทย
อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกระบุว่า ความเสี่ยงต่อสาธารณะยังคงต่ำ และวัคซีนที่มีในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปกป้องจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์นี้ได้
แต่ก็เตือนว่า โรคโควิดและการติดเชื้ออื่น ๆ อาจเพิ่มสูงได้ในช่วงฤดูหนาวนี้
WHO ยังระบุอีกว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ อาทิ ไข้หวัด, ไวรัสอาร์เอสวี และโรคปอดอักเสบในเด็ก กำลังเพิ่มสูงในแถบซีกโลกเหนือ ซึ่งไวรัสเหล่านี้อาจทำให้เชื้อโควิดมีการเปลี่ยนแปลง และอาจนำไปสู่การพัฒนาจนเกิดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้