12 กุมภาพันธ์ 2567
540
สธ. แจงมียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเป็นผู้เสพยา มีเกิน 5 เม็ดเป็นผู้ผลิต โทษคุก 1 - 10 ปี
เป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เมื่อราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมกัน เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประเภทยาบ้า หลังจากนำเสนอข้อมูลของแต่ละฝ่ายอย่างรอบคอบและรอบด้าน มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ที่มียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด เมื่อถูกตำรวจจับได้ ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และให้เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่ควรนำไปบำบัดรักษาให้หายเป็นปกติ ซึ่งปกติจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับความสมัครใจของผู้นั้นว่าจะยอมไปบำบัดรักษาหรือไม่ ถ้าไม่ยอมรับการบำบัด ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากพิสูจน์ได้ว่ามีพฤติการณ์ขายต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
2. ส่วนผู้ที่มียาบ้าเกินกว่า 5 เม็ด เช่น มี 6 เม็ดหรือมากกว่านี้ เมื่อถูกตำรวจจับ ให้ถือเป็นผู้มียาบ้าไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีโทษเท่ากับการจำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ คือ จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี
3. ข้อสรุปนี้ เป็นผลจากการประชุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, อัยการ และศาลยุติธรรม เป็นต้น
4. กระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายและแนวทางที่ชัดเจน ซึ่งได้ย้ำกับบุคลากรของกระทรวงมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ก็คือ เมท แอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นยาเสพติดให้โทษที่ห้ามเสพ ห้ามมีไว้ในครอบครอง ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า หรือส่งออก หรือห้ามจำหน่ายไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ตาม ถือว่าเป็นความผิดต้องได้รับโทษ
แต่มีเงื่อนไขเรื่องจำนวนเม็ดที่กำลังพิจารณาดำเนินการอยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เช่น มีไว้เสพ ก็ต้องรีบนำไปบำบัดรักษาให้หาย ก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อตัวผู้เสพเอง หรือเมื่อเกิดอาการจิตหลอน ก็ใช้อาวุธไปทำร้ายคนรอบข้าง ได้แก่ ลูก เมีย พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และคนทั่วไป จนถึงแก่ชีวิต ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน ถ้าพบพฤติการณ์มียาไว้จำหน่าย ก็จะต้องได้รับโทษหนัก
5. ยาบ้า 5 เม็ด “ยืนยันว่าไม่ได้นั่งคิดขึ้นมาเองตามใจชอบ” แต่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแพทย์ทางด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้นำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้
6. ตามขั้นตอน ตนในฐานะ รมว.สาธารณสุข จะส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมตรี เพื่อจัดให้มีกระบวนการรับฟังความเห็นต่อการกำหนดจำนวนเม็ดยาบ้าดังกล่าว หลังได้แนวทางซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และได้ผ่านการเห็นชอบคณะรัฐมนตรี นำมาประกาศเป็นกฎกระทรวง
“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นผู้เสพ แต่ถ้ามีพฤติกรรม และพยานแวดล้อมว่าเป็นผู้ค้า ไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ต้องติดคุก รัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง” นพ.ชลน่าน ระบุ
โดยผู้เสพต้องเข้ารับการบำบัด เมื่อบำบัดครบ ได้รับการรับรอง จึงถือว่าไม่ต้องรับโทษ และเมื่อผ่านการบำบัดทางการแพทย์แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดทางสังคม โดยหลักการชุมชนบำบัด จนสามารถเชื่อได้ว่าไม่กลับไปเสพซ้ำ มีพฤติกรรมที่ดี สามารถที่จะกลับสู่สังคมได้