เทศกาลสงกรานต์คึกคัก คาดเงินสะพัดกว่า 5 หมื่นล้านบาท คนไทยวางแผนใช้เงิน 2 เท่า
The 1 Insight ร่วมกับ CRC VoiceShare เผยเทรนด์ผู้บริโภคช่วงเทศกาลสงกรานต์ Shoppingกระหน่ำ สินค้าคลายร้อนที่มียอดขายเติบโตโดดเด่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้
เศรษฐกิจภาพรวมคึกคักโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ดันยอดการใช้จ่ายเติบโต 2 เท่าตัว โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยว เศรษฐกิจสะพัดสูงสุด ซึ่งเป็นหัวเมืองสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ต ระยอง อุดรธานี จันทบุรี และชลบุรี
เนื่องจากพฤติกรรมชาวไทยกว่า 60% แห่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ-กลับภูมิลำเนาตามธรรมเนียมช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ โดยคาดว่าจะมีการวางแผนใช้จ่ายโดยประมาณ 9,000 – 18,000 บาทต่อคน
แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
1. ค่าเดินทาง 5,000 – 10,000 บาท โดยส่วนใหญ่ 72% เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 15% เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และ 13% เดินทางโดยเครื่องบิน
2. ค่าที่พัก 1,000 – 3,000 บาท
3. ค่ากิน-เที่ยว 3,000 – 5,000 บาท
ส่วนคนไทยอีก 30% ที่เลือกพำนักอยู่ที่อยู่อาศัยในจังหวัดเดิม มักมีกิจกรรมหลักๆ คือการใช้เวลากับครอบครัว เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เยี่ยมเยียนและรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่
นอกจากนี้ยังมี 10% วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยกว่าครึ่งตั้งเป้าไปประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วยประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ จีน ไต้หวัน เวียดนาม
CRC VoiceShare ยังเผยผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ พบว่าคนไทยกว่า 60% มีแผนที่จะเดินทางในประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา โดยนิยมไปเที่ยวทะเลเป็นอันดับหนึ่ง
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล จังหวัดยอดนิยมได้แก่ ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต โดยส่วนใหญ่วางแผนเดินทางช่วงก่อนสงกรานต์จนถึงช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 12 - 16 เมษายน และมักเดินทางในช่วงสงกรานต์เป็นประจำทุกปี
ผลสำรวจเผยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงวันที่ 1-15 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในช่วงสงกรานต์ในทุกๆ ปี ได้แก่
1. กระเป๋ากันน้ำ +260%
2. พัดลม +250%
3. เครื่องปรับอากาศ +230%
4. เสื้อลายดอก +110%
5. น้ำแข็ง +70%
6. ไอศกรีม +60%
7. แป้งทาตัว +50%
8. ครีมกันแดด +40%
9. ยาดม +30%
10. น้ำยาเปลี่ยนสีผม +20%
จากฐานข้อมูล The 1 ยังบ่งชี้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวในปี 2566 ซึ่งภาพรวมเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 200% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกในปี 2567 นี้ โดย 3 ประเทศที่ใช้จ่ายสูงสุดได้แก่ จีน มาเลเซีย และรัสเซีย
โดยการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 10 เท่า ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีแนวโน้มเติบโตแตะระดับก่อนเหตุการณ์โควิด-19 เนื่องด้วยนโยบายวีซ่าฟรี ไทย - จีน ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการท่องเที่ยว
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าสงกรานต์จะมีการสาดน้ำยาวนานถึง 21 วัน เงินสะพัดกว่า 50,000 - 80,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวทะลุ 10 ล้านคน จากต้นปีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 9.37ล้านคน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยมากที่สุดคือ จีน มาเลเซีย และรัสเซีย ถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตในทุกตลาดที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้ขยายตัวต่อเนื่อง