การจ้างงานไร้พรมแดน แทนที่การทำงานระยะไกล

การทำงานระยะไกลไม่ใช่คำถามหลักอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าการจ้างงานไร้พรมแดนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเป็นประเด็นหลักที่ได้รับความสนใจ Jeremy Johnson ซีอีโอของ Andela กล่าวว่า "การทำงานระยะไกลเป็นเหมือนประตูสู่การจ้างงานไร้พรมแดน" เขากล่าวว่าการจ้างงานแบบไร้พรมแดนช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงบุคลากรจากทั่วโลกได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสถานที่ทำงานทางกายภาพ

จากการสำรวจ CEO ของ Gartner ในปี 2023 พบว่าการจ้างงานเทคโนโลยีแบบไร้พรมแดนเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยมีการจ้างงานในเมืองต่างๆ เช่น ปักกิ่ง เดลี บูคาเรสต์ และเซบูซิตี้ ซึ่งการจ้างงานแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องหรูหราอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งที่ทำได้จริงและประหยัดค่าใช้จ่าย

Adam Jackson ซีอีโอของ Braintrust กล่าวว่า "เราไม่มีสำนักงานทางกายภาพ ทุกคนทำงานระยะไกล" ลูกค้าของ Braintrust ซึ่งรวมถึง NASA และ Nestlé กำลังสร้างทีมที่ทำงานแบบไร้พรมแดนเช่นกัน การจ้างงานแบบนี้ช่วยให้บริษัทสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา

อย่างไรก็ตาม การจ้างงานไร้พรมแดนต้องพิจารณากฎหมายแรงงานและการจ่ายค่าจ้างในแต่ละประเทศ John Caplan ซีอีโอของ Payoneer กล่าวว่าการสร้างโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุ่นและการใช้เครื่องมือดิจิทัลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้การจ้างงานแบบไร้พรมแดนประสบความสำเร็จ

ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องกันว่าการจ้างงานแบบไร้พรมแดนยังคงมีความท้าทาย แต่ก็มีศักยภาพในการเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนวัตกรรมจากทั่วโลกหรือการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน Caplan กล่าวว่าการจ้างงานแบบนี้สามารถ "ยกระดับชุมชนทั่วโลก" ได้ ทำให้มีความสามารถในการขยายฐานบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน