โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย กลับมาแล้วเริ่มจองสิทธิ์ 24 กันยายน จังหวัดแซนด์บ็อกซ์ เปิดเพิ่มอีก 26 จังหวัดเดือนตุลาคม
Highlight
รัฐบาลกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่น และเปิดจังหวัดแซนด์บ็อกซ์ เพิ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
• รัฐจัดงบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทอุดหนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทย
• การเปิดจังหวัดท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ เฟส 2 เพิ่ม 5 จังหวัด เริ่ม 1 ตุลาคม เปิดเฟส 3 เพิ่มจำนวน 21 จังหวัด เริ่มกลางเดือนตุลาคม และเฟสที่ 4 เดือนมกราคม ปี 2565 เน้นจังหวัดเขตแนวชายแดน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% จำนวน 2 ล้านสิทธิ หรือห้องพัก
รวมทั้งโครงการทัวร์เที่ยวไทย (รัฐบาลสนับสนุนวงเงิน 5,000 บาท ให้ประชาชนเดินทางเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ จำนวน 1 ล้านสิทธิ) โดยคาดว่า จะสามารถเปิดลงทะเบียนภายในกันยายนนี้ เพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้แต่ละจังหวัดได้เตรียมความพร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ และจัดเคมเปญต่าง ๆ รองรับนักท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ แซนด์บอกซ์, หัวหิน รีชาร์จ, ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ เป็นต้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการมีกรอบเงินกู้คงเหลือ 10,988 ล้านบาท จากเราเที่ยวด้วยกัน 5,958 ล้านบาท และทัวร์เที่ยวไทยที่ยังไม่ได้เริ่มอีก 5,000 ล้านบาท
จากการประเมินสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลง และรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อนุญาตให้เปิดร้านอาหารนั่งทานที่ร้านได้ และเปิดห้างสรรพสินค้าได้
ททท.คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้ การเดินทางจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ และเกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น สะท้อนได้จากการคลายล็อกดาวน์ที่ผ่านมา พบประชาชนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยใกล้ภูมิลำเนา เช่น คนกรุงเทพฯเดินทางไปเที่ยวแถวหัวหิน พัทยา ชะอำ จำนวนมาก นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ททท.จะเริ่มเปิดระบบให้ลงทะเบียนประมาณวันที่ 24 กันยายน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิเดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เนื่องจากต้องจองห้องพักล่วงหน้า 7 วัน และชำระเงินให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าเข้าใช้บริการที่พักได้ เพื่อป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตามอาจต้องหารือกับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของการเปิดระบบอีกครั้งว่า จะเริ่มเปิดเวลาเที่ยงคืนวันที่ 23 กันยายนได้ทันทีหรือไม่ หรือเป็นวันที่ 24 กันยายน และเป็นช่วงเวลาไหน” นายยุทธศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ ททท. อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงกรอบเวลาการใช้สิทธิ์ทั้ง 2 โครงการ ว่าจะสามารถใช้ได้จนถึงช่วงใด เนื่องจากต้องทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
“เราคาดการณ์จำนวนคนใช้สิทธิจะหนาแน่นมากในช่วงปลายปีนี้ เพราะเป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดยาวต่อเนื่องข้ามไปถึงเดือนมกราคม 2565 หากสามารถจองเที่ยวได้ถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2565 เชื่อว่าจะกระตุ้นให้คนใช้สิทธิท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีก”นายยุทธศักดิ์กล่าว
สำหรับสิทธิประโยชน์ของโครงการ เราเที่ยวด้วยกันและโครงการทัวร์เที่ยวไทยมีดังนี้
- โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 รัฐสนับสนุนอะไรบ้าง
- รัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40%
-ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน
- สนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% จำนวน 2 ล้านสิทธิ หรือห้องพัก) - โครงการทัวร์เที่ยวไทย
- รัฐสนับสนุนวงเงิน 5,000 บาท ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ จำนวน 1 ล้านสิทธิ) - แคมเปญท่องเที่ยว
- กรุงเทพฯ แซนด์บอกซ์
- หัวหิน รีชาร์จ
- ชาร์มมิง เชียงใหม่ - ความพร้อมด้านสาธารณสุข
- เร่งฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่
นายธนกร กล่าวอีกว่า นอกจากโครงการกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศแล้ว รัฐบาลยังเตรียมเปิดจังหวัดท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์เพิ่มเติม โดยในระยะที่ 2 จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม และระยะที่ 3 เริ่มกลางเดือนตุลาคมนี้ เพื่อต้อนรับช่วงไฮซีซั่นในปลายปี โดยวางแผนในการปรับมาตรการ ภายใต้การป้องกันตนเองแบบ Universal Prevention
สำหรับจังหวัดท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ระยะที่ 2 ประกอบด้วย 5 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่
จังหวัดท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ระยะที่ 3 จะเปิดต่ออีก 21 จังหวัดประกอบด้วย
ภาคเหนือ ได้แก่ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุโขทัย ภาคอีสาน ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี
ภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี
ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง จันทบุรี ตราด
ภาคกลาง ได้แก่ อยุธยา
ภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง สตูล สงขลา
จังหวัดแซนด์บ็อกซ์ระยะที่ 4 จะเริ่มในเดือนมกราคม 2565 โดยจะเปิดพื้นที่จังหวัดที่ติดชายแดนเพื่อนบ้าน อีก 13 จังหวัด จับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน (Travel Bubble) ซึ่งทั้ง 4 ระยะ จะเปิดรับนักท่องเที่ยว รวม 43 จังหวัด
หลังจากโครงการนำร่องระยะที่ 1 ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ที่จังหวัด ภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ 2 เดือนแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ รายจ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาท มีรายได้สะสม 1,634 ล้านบาท ทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาฟื้นตัวสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามนายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องมาตรการตรวจโควิด-19 และด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน โดยได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในแบบวิถีใหม่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการ ร่วมเดินหน้าเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบสาธารณสุข เพี่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในวันนี้และอนาคต เพื่อลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ และช่วยกันเดินหน้าสู่การเปิดประเทศวิถีใหม่ต่อไป