05 มีนาคม 2565
2,786

จับตา "คริปโต" มีบทบาทอย่างไร กับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน

จับตา "คริปโต" มีบทบาทอย่างไร กับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
Highlight

เมื่อรัสเซียเริ่มบุกยูเครนนั้น การคว่ำบาตรก็เริ่มต้นขึ้นทันที เน้นไปที่การบริการทางการเงิน โดยการตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นเครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการโอนเงินข้ามพรมแดน ทำให้ชาวรัสเซียบางส่วนหันมาโอนเงินผ่านคริปโทเคอเรนซี และยูเครนเองก็ขอรับบริจาคเงินคริปโทฯเพื่อซื้ออาวุธ บทบาทของเงินคริปโทฯ ชัดเจนมากขึ้น ในสถานการณ์สงคราม ที่รัฐบาลใดๆก็ไม่อาจแทรกแซง


นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน ต่อบทบาทของคริปโต และผลกระทบต่อธุรกิจไทย ว่า ระยะหลายวันที่ผ่านมาราคาเหรียญคริปโตทุกชนิดปรับลดลงหมด ทิศทางและพฤติกรรมไม่ต่างกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จึงเกิดคำถามว่า นอกเหตุผลทางอารมณ์แล้วทำไมต้องเป็นเช่นนั้น คริปโตไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย 

รัสเซียโดนโดดเดี่ยว และถูกตัดออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความระหว่างธนาคารเพื่อยืนยันการโอนเงินข้ามประเทศ มีธนาคารของรัสเซียอยู่ในระบบนี้ประมาณ 300 แห่ง

ทำให้โอนเงินผ่านระบบธนาคารยากขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลอย่างแรงกับเศรษฐกิจของรัสเซีย (ผลต่อ GDP อย่างน้อย 5%) แต่ก็จะส่งผลกับเศรษฐกิจยุโรปและทั่วโลกด้วย อย่างเช่นเรื่องก๊าซ ซึ่ง 30-40% ของก๊าซของยุโรปมาจากรัสเซีย 

จากนี้จะซื้อ/ขายกันหรือไม่อย่างไร และจะมีผลต่อราคาก๊าซและราคานํ้ามันที่ไทยต้องซื้ออย่างไรด้วย ส่วนผู้ประกอบการไทยที่รอการชำระเงินจากคู่ค้ารัสเซีย ต้องรีบสะสางโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม นี่คือจังหวะของระบบการเงินแบบ DeFi (ระบบการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาคนกลางเช่นสถาบันการเงิน) ที่จะมาทำหน้าที่แทน จริงๆ แล้วน่าจะส่งผลบวกต่อ Crypto อย่างเช่น Bitcoin ในเร็ววัน 

ขณะเดียวกัน ข่าวต่างประเทศก็ได้รายงานถึงการบริจาคเหรียญ Bitcoin ให้ชาวยูเครน ซึ่งนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งว่าช่วงสงครามที่ระบบปกติเข้าถึงได้ยาก 

ระบบที่พึ่งพาเทคโนโลยีจะมาทดแทนทันที และ crypto exchange ของยูเครนรายงานว่าชาวยูเครนยอมเข้าซื้อ USD stable coin ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด

ส่วนหนึ่งเพราะทางรัฐบาลยูเครนได้มีคำสั่งจำกัดการถอนหรือโอนเงินในระบบธนาคารเพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ และเพื่อปกป้องระบบธนาคารในเวลาเดียวกัน ชาวรัสเซียอาจจะต้องขาย Bitcoin ในมือออกมาเพื่อแปลงเป็นเงินดอลลาร์บ้าง 

“ส่วนนี้ก็อาจจะกดดันราคาไประยะหนึ่ง  อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่า พอพ้นอาการ ตกใจ ช่วงแรก เราจะได้เห็นคริปโตมีบทบาทมากขึ้น” อดีต รมว.คลัง ระบุ. 

ทั้งนี้ราคาตลาดรวมคริปโตเคอเรนซีทั้งระบบปรับลดลงต่ำสุดราว  1.67 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และต่อมาก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุดเมื่อ ปรับขึ้นสูงกว่า 2 ล้านล้านเหรียญโดยราคา Bitcoin เริ่มยืนเหนือราคา 44,000 เหรียญอีกครั้ง

ประเทศที่จะเข้าสู่สงคราม ต้องเตรียมการระบบการเงินสำรองไว้ให้ดีดูปัญหารัสเซีย

รัสเซีย เพิ่มดอกเบี้ย รวดเดียว 9.5% เป็น 20% ! แปลว่าอะไร!? ของจะแพงมาถึงไทยไหม!? 

นายกรณ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ระบบการเงินในรัสเซียที่ปั่นป่วนมากๆ หลังการถูกตัดออกจากระบบ SWIFT 

โดยธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายกว่าเท่าตัว จาก 9.5% เป็น 20%

“ผมไม่เคยเห็นประเทศระดับนี้ทำเช่นนี้มาก่อน สะท้อนถึงระดับวิกฤตในสถานะการเงินของรัสเซีย” นายกรณ์กล่าว

ก่อนหน้านี้ค่าเงินรูเบิ้ลได้ปรับลดลงไปถึง 30% ในวันเดียว และมีชาวรัสเซียแห่ถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารตลอดทั้งวัน ซึ่งนอกจากการที่หลายธนาคารของรัสเซียถูกถอนออกจากระบบโอนเงิน SWIFT แล้ว ที่เจ็บไม่แพ้กันคือการระงับการเข้าถึงเงินสำรองระหว่างประเทศ (ในส่วนที่อยู่ต่างประเทศ) ที่รัสเซียอุตส่าห์สะสมไว้กว่า  600,000 ล้านดอลลาร์ 

เป็นสาเหตุที่รัฐบาลรัสเซียมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการแปลงเงินดอลลาร์ในมือเป็นเงินรูเบิล สะท้อนถึงการขาดแคลนเงินดอลลาร์อย่างชัดเจน!

“นอกจากนั้น ผมเห็นรายงานหนึ่งจากต่างประเทศอ้างว่า รัสเซียต้องใช้เงินงบประมาณถึง 600,000 ล้านบาทต่อวันในการสนับสนุนมาตรการทางทหารในการบุกยึดยูเครน”นายกรณ์กล่าว 

รัสเซียไม่สามารถใช้นโยบาย ‘พิมพ์เงิน’ เหมือนที่อเมริกาเคยทำในสมัยสงครามเวียดนาม จึงมีข้อจำกัดอย่างมากในการยืดเยื้อการสู้รบสงคราม

ที่น่าสนใจคือทางยูเครนได้ขอให้ Crypto exchange เช่น Binance และ Kraken ระงับบัญชีซื้อขายของชาวรัสเซีย ซึ่งทางสองบริษัทนี้ได้ชี้แจงว่าทำไม่ได้ เว้นแต่บุคคลที่มีกฎหมายถูกสั่งให้ระงับอย่างเป็นทางการ 

ดังนั้นหากทางรัฐบาลซีกตะวันตกพบว่ามีการซื้อขาย Crypto โดยชาวรัสเซียเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัย อาจจะมีคำสั่งตามกฎหมายตามมาเพื่อปิดช่องทางนี้เพิ่มเติมก็เป็นไปได้

บทเรียนจากทั้งหมดนี้ทำให้คิดต่อไปได้ว่าประเทศอื่นๆที่เป็นคู่แข่งกับอเมริกาน่าจะต้องคิดเร่งสร้างระบบการเงินขึ้นมาแทนการพึ่งพาระบบการเงินปัจจุบันที่ทางประเทศตะวันตกเป็นผู้คุมเกม - ยากหรือไม่? ยากมาก แต่หากทำไม่ได้ ประเด็นนี้จะเป็นประเด็นที่เสียเปรียบประเทศตะวันตกไปอีกนาน

“ส่วนผลในระยะสั้นกับไทยยังคงเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และผลกระทบที่จะได้รับจากปัญหาเศรษฐกิจของโลกที่จะต้องสะดุดอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากโควิด”

รัฐบาลควรต้องชี้แจงกับประชาชนในข้อเท็จจริงและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับราคาสินค้าและต้นทุนผู้ประกอบการ กระทรวงพาณิชย์ ควรต้องเตรียมป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความเป็นจริง และทีมเศรษฐกิจควรคิดมาตรการไว้เผื่อรองรับสภาวะของแพงแต่รายได้น้อยทั้งในส่วนของประเทศและประชาชน

สงคราม ส่งผลดีต่อ Bitcoin 

นักวิเคราะห์ Jack Niewold ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “สงคราม” โดยกล่าวว่าอาจส่งผลดีต่อราคา bitcoin ในกรณีที่รัสเซียบุกยูเครนอาจเป็นโอกาสในการซื้อสำหรับนักลงทุนระยะยาว

Jack Niewold เป็นผู้ก่อตั้ง Crypto Pragmatist โดยมีเป้าหมายที่จะเสนอการวิจัย Altcoin ระดับสถาบันให้กับนักลงทุนรายย่อย โดยพยายามวิเคราะห์หาจุด “DIP” ของตลาด

Jack Niewold กล่าวว่า “ผมไม่ได้พยายามทำนายจุดต่ำสุดของตลาด แต่ผมจะซื้อมันในราคานี้” เขากล่าวหลังจากที่ราคา BTC ตกลงมากกว่า 9% มาอยู่ที่ 34,700 ดอลลาร์จากการโจมตีของรัสเซียในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

“ในอดีต กระสุนปืนส่งสัญญาณถึงจุดต่ำสุดของตลาด” Jack Niewold กล่าว
เขาใช้แผนภูมิจากช่วงสงครามในอดีต เช่น Synthetic Team War (1964), สงครามอ่าว Gulf War (1991) และ สงครามในอัฟกานิสถาน (2001) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง bitcoin กับ ตลาดหุ้นสหรัฐ – โดยเฉพาะ Nasdaq ประวัติศาสตร์ในอดีต “แสดงให้เห็นว่าก้นหลุมของตลาดเกิดขึ้นพร้อมกับ เหรียญสงครามเสมอ” เขากล่าว

“ดังนั้นเมื่อ Nasdaq และ BTC มีความสัมพันธ์ กัน จึงเป็นไปได้ที่จะใช้ข้อมูลตลาดหุ้นในอดีตเพื่อทำความเข้าใจว่าตลาดจะไปทางไหน ข้อมูลนี้ถือว่ายูเครนจะเป็นประเทศเดียวที่ถูกโจมตี… แต่การซื้อระหว่างการบุกรุกดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญ” Niewold กล่าวในทวีต

สงครามจะส่งผลอย่างไรต่อคริปโต

Jack Niewold กล่าวว่าสงครามอาจทำให้ธนาคารกลางพิมพ์เงินมากขึ้นและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่เริ่มมีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ (เช่น การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในรัสเซีย) อาจกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น

ในช่วงสงคราม ผู้อพยพมีแนวโน้มที่จะหันมาใช้ Bitcoin มากกว่าเพื่อให้ “เป็นที่เก็บมูลค่าและช่องทางทางการเงินเมื่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคารไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป” ปัจจัยทั้งหมดส่งผลให้มีการผลักดันราคาของสกุลเงินดิจิทัลให้สูงขึ้น

Jack Niewold ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “ผมคิดว่ามีทฤษฎีเกมทางการเมืองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการนำ crypto มาใช้ หากรัสเซียเริ่มยอมรับ bitcoin เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ผมคาดว่าประเทศใหญ่ๆ หลายๆประเทศ อาจจำเป็นต้องยอมรับ bitcoin เช่นกัน

ก่อนหน้าที่จะเกิดสงคราม ธนาคารกลางรัสเซียประกาศแบนเงินคริปโตเคอเรนซี แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป รัสเซียถูกกดดันจากสหรัฐและยุโรปและถูกตัดออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศ อาจจะเป็นจุดพลิกผันให้รัสเซียยิมรีบเงินคริปโท มากขึ้นในการโอนและทำธุรกรรมต่างๆ

นอกจากนี้หลายๆ ประเทศที่กำลังมองดูสงครามครั้งนี้อยู่ อาจจะเริ่มเห็นความสำคัญของเงินคริปโทเคอเรนซีที่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้

Bitcoin ถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง? 

Alex Mashinsky ซีอีโอของ Celsius Network ได้เผยว่าเขามีความเชื่อมั่นใน Bitcoin แม้ว่าราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็วต่ำกว่า 35,000 ดอลลาร์ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ในการให้สัมภาษณ์กับ Kitco News โดยกล่าวว่า Bitcoin มีแนวรับที่สำคัญอยุ่ที่ระดับราคา 30,000 ดอลลาร์ และขณะนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

“ผมคิดว่านี่เป็นจุดต่ำสุดของความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน Bitcoin มีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ระดับราคา 30,000 ดอลลาร์ คาดว่าราคาจะคงระดับปัจจุบันหรือมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น”

Alex Mashinsky ยังเน้นย้ำถึงลักษณะพื้นฐานของ Bitcoin โดยกล่าวว่าการขาดแคลน B ที่พิสูจน์ได้ในที่สุดจะผลักดันมูลค่าของมันให้สูงขึ้นไปอีก

“ความจริงที่หนีไม่พ้นก็คือ Bitcoin  มีอุปทานที่จำกัด จะไม่มีวันเกิน 21 ล้าน Bitcoin แน่นอน แต่ความต้องการยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องบ่งบอกถึงราคาของ bitcoin ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตเช่นกัน”

อ้างอิง : Siam Bitcoin, Facebook กรณ์ จาติกวณิช

ติดต่อโฆษณา!