UN เผยประชาชน 23 ล้านคนในอัฟกานิสถานอดอยากรุนแรง
Highlight
ผลพวงจากสงครามที่โหดร้ายประชาชนชาวอัฟกานิสถาน กำลังเผชิญภาวะขาดอาหาร โดยจำนวนผู้อดอยากขั้นรุนแรงเพิ่มขึ้นจาก 14 ล้านคนเมื่อเดือนก.ค. 2564 สู่ระดับ 23 ล้านคนในเดือนมี.ค. 2565 สำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติวอนชาวโลกร่วมช่วยเหลือ อีกทั้งประชาชนในประเทศเยเมนที่ประสบชะตากรรมแบบเดียวกัน ในขณะที่สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน กำลังสร้างความเสียหายแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ
นายฟาร์ฮาน แฮก รองโฆษกเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่าอัฟกานิสถานกำลังเผชิญภาวะอดอยาก โดยจำนวนผู้อดอยากขั้นรุนแรงเพิ่มขึ้นจาก 14 ล้านคนเมื่อเดือนก.ค. 2564 สู่ระดับ 23 ล้านคนในเดือนมี.ค. 2565
UN และชาติพันธมิตรวางแผนเข้าถึงเด็กที่ขาดสารอาหารรุนแรงจำนวน 3.2 ล้านคน ผ่านจุดรักษา 2,500 แห่ง ทั่ว 34 จังหวัดของอัฟกานิสถาน โดยจุดรักษาดังกล่าวช่วยเหลือเด็กขาดสารอาหารรุนแรงแล้ว 800,000 คน นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค.ปี 2564
นายแฮกเผยว่า ในปีนี้พันธมิตรด้านมนุษยธรรมของ UN ได้สนับสนุนความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชาชน 8.2 ล้านคน ซึ่งรวมถึงอาหารปันส่วนฉุกเฉิน อาหารในโรงเรียนสำหรับเด็ก สิ่งของทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับแม่ที่ให้นมลูกและลูกของพวกเธอ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร เยอรมนี และกาตาร์ วางแผนจัดการประชุมประเทศผู้บริจาคนานาชาติในวันที่ 31 มี.ค. เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน
นายแฮกระบุว่า แผนช่วยเหลือทางมนุษยธรรมสำหรับอัฟกานิสถานประจำปี 2565 มุ่งระดมทุน 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 21 ล้านคน ทว่าการระดมทุนยังอยู่ที่เพียง 13% ของเป้าหมายเท่านั้น
ภาวะ “ขาดอาหาร-พลัดถิ่น” ผลพวงจากสงคราม กำลังเกิดขึ้นในยูเครน
ภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างหนักในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นผบพวงมาจากภาวะสงคราม การแย่งชิงอำนาจ ประเทศล่มสลาย ส่งผลกระทบเต็มๆต่อประชาชน ที่ไม่อาจทำมาหากินเลี้ยงชีพได้อย่างปกติ
ในตอนนี้ภาพประชาชนในยูเครน ‘ขาดอาหาร-พลัดถิ่น’ ผลพวงจากสงครามทั่วโลกกำลังเกิดขึ้น สงครามไม่เคยให้ผลดีกับประชาชนเจ้าของประเทศ โดย สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่า สงครามในยูเครนและวิกฤตผู้ลี้ภัยจากสงครามกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกแต่ประชาคมโลกก็ไม่ควรลืมที่จะให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถานด้วย
การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ก้าวเข้าสู่วันที่ 20 และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ นำความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนแทบทุกหย่อมหญ้า ทำให้เกิดการพลัดถิ่นครั้งใหญ่ และแน่นอนว่าถ้าการสู้รบยืดเยื้อย่อมนำไปสู่ปัญหาความยากจน อดอยาก คนตกงาน และเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคมตามมา
ล่าสุด ยูเอ็นเอชซีอาร์ วอนทั่วโลกว่าอย่าลืมยังมีวิกฤตอัฟกานิสถาน แม้สถานการณ์ยูเครนจะน่าห่วงมากแค่ไหน
ยูเอ็นเอชซีอาร์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (15 มี.ค.) โดยย้ำเตือนว่า โลกไม่ควรหลงลืมว่ายังมีวิกฤตมนุษยธรรมในอัฟกานิสถานที่น่าเป็นห่วง ท่ามกลางความสนใจที่มุ่งไปยังสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
UNHCR วอนช่วยเหลือคนอัฟกานิสถาน
“ฟิลิปโป กรันดี” ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยระหว่างการเดินทางเยือนกรุงคาบูลว่า สงครามในยูเครนและวิกฤตผู้ลี้ภัยจากสงครามกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกในขณะนี้ แต่ประชาคมโลกก็ไม่ควรลืมที่จะให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถานด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจของอัฟกานิสถานพังทลาย ขณะที่ประชาชนนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากประเทศ หลังจากที่กองกำลังต่างชาติ รวมถึงกองทัพสหรัฐ ได้ถอนทหารออกจากประเทศ ก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะเข้ายึดครองอัฟกานิสถานได้สำเร็จ
กรันดี กล่าวว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องส่งสารนี้ไปยังสถานการณ์อันเลวร้ายอื่น ๆ ซึ่งต้องการความสนใจและทรัพยากรในการช่วยเหลือไม่ต่างกัน ซึ่งเราไม่ควรหลงลืมหรือเพิกเฉย โดยเฉพาะในอัฟกานิสถาน”
อัฟกานิสถานมีประชาชนที่ต้องพลัดถิ่นเพราะสงครามในประเทศมากถึง 3.4 ล้านคน ขณะที่มีผู้ลี้ภัยออกจากประเทศราว 2.6 ล้านคน โดยมีประชาชนนับหมื่นหลบหนีออกจากอัฟกานิสถานหลังจากที่กรุงคาบูลถูกกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองได้สำเร็จเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN)ระบุว่า มีประชาชนกว่า 23 ล้านคนที่ขาดแคลนอาหาร และ 95% ของประชากรไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
ขณะเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่ยูเอ็นแถลงว่าชาวเยเมนประมาณ 19 ล้านคนจะอยู่ในสถานะผู้หิวโหยถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือด้านเงินทุนเพิ่มเติมผ่านกองทุนช่วยเหลือต่างๆที่ต้องการเงินทุนจำนวน 4,300 ล้านดอลลาร์
พร้อมทั้งระบุว่า ขณะนี้เยเมนซึ่งบอบช้ำอย่างหนักจากสงคราม ประชาชนสามในสี่คนจะต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างเต็มที่ในปีนี้
ยูเอ็น ย้ำว่าเงิน 4,300 ล้านดอลลาร์ที่เรียกร้องนี้เป็นเงินที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารที่จำเป็นในเยเมนในปีนี้และช่วยป้องกันประชาชน 19 ล้านคนในประเทศนี้ไม่ให้ต้องอยู่ในสภาพหิวโหย
พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าการประชุมเพื่อระดมเงินทุนช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่นครเจนีวา ในวันพุธ(16มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่นจะทำงานได้บรรลุตามเป้าประสงค์
“ตอนนี้เงินในกองทุนร่อยหรอลงไปและหน่วยงานต่างๆก็เลิกทำงานในเยเมน เราจำเป็นต้องเติมเต็มท่อส่งอาหาร จัดหาที่พักพิงและส่งสารไปยังชาวเยเมนว่าเราไม่ได้ลืมพวกเขา”มาร์ติน กริฟฟิธส์ เลขาธิการฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น กล่าว
เยเมน ได้รับผลกระทบหนักจากสงครามกลางเมือง
เยเมนได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 2557 เมื่อกลุ่มกบฏฮูตี ที่อิหร่านให้การสนับสนุนบุกยึดกรุงซานา และพื้นที่ทางเหนือส่วนใหญ่ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลต้องหนีไปทางใต้ และไปที่ซาอุดีอาระเบีย จากนั้นกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีสหรัฐหนุนหลัง ได้เข้าสู่การทำสงครามเมื่อปี 2558 เพื่อช่วยคืนอำนาจให้แก่ฝ่ายรัฐบาลเยเมน สงครามนี้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 150,000 คน รวมทั้งพลเมืองกว่า 14,500 ราย
ขณะที่ตัวเลขจากหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ระบุว่า มีประชาชนชาวเยเมนประมาณ 66% จาก 30 ล้านคน หรือราว 19 ล้านคน ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน และชาวเยเมนประมาณ 4.2 ล้านคน ไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่มีชาวเยเมนประมาณ 102,000 คนกลายเป็นผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัย
กริฟฟิธ อดีตทูตพิเศษยูเอ็นประจำเยเมน กล่าวว่า สถานการณ์การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเยเมนที่ถือว่าย่ำแย่ในขณะนี้อาจจะเลวร้ายลงไปอีก เมื่อข้าวสาลีซึ่งนำเข้ามาจากยูเครน ในสัดส่วนมากถึง 40% ของปริมาณพืชพันธุ์ธัญญาหารของเยเมนโดยรวมอาจประสบปัญหานำเข้ามาไม่ได้
“ยูเครนเป็นแหล่งอาหารของหลายประเทศและจำเป็นต้องให้ยูเครนอยู่รอดจากสงคราม การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นที่ต้องพึ่งพาผลผลิตข้าวสาลีของยูเครน”กริฟฟิธ กล่าว
รายงานที่ตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์(14มี.ค.)โครงการอาหารโลกของยูเอ็น และองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ(เอฟเอโอ)และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(ยูนิเซฟ) เตือนว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเยเมนกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเลวร้ายที่สุดในช่วงเดือนมิ.ย.และเดือนธ.ค.ปี 2565
คาดการณ์ว่าจะมีประชากรประมาณ 19 ล้านคนที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านอาหาร เพิ่มจากปัจจุบันที่ 17.4 ล้านคน ในจำนวนนี้ 7.3 ล้านคนจะต้องเผชิญหน้ากับภาวะความหิวโหยในระดับฉุกเฉิน
รายงานของยูเอ็นยังระบุด้วยว่า เกิดภาวะทุพโภชนาการในระดับที่รุนแรงและดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า5ขวบในเยเมน และทั่วประเทศมีเด็กที่อยู่ในภาวะขาดอาหารขั้นรุนแรง 2.2 ล้านคนด้วยกัน รวมทั้งเด็กอีกกว่า 500,000 คนที่กำลังเจอปัญหาขาดอาหารอย่างรุนแรง เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
อ้างอิง : สำนักข่าวซินหัว, UN, BangkokBiz