25 มีนาคม 2565
1,876

สงครามสู้รบ รัสเชีย-ยูเครนครบ 1 เดือนไม่จบ แนวโน้มลุกลาม NATO

สงครามสู้รบ รัสเชีย-ยูเครนครบ 1 เดือนไม่จบ แนวโน้มลุกลาม NATO
Highlight

สงครามการสู้รบรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อสร้างความเสียหายให้กับทั่วโลกมากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ถึงนาทีนี้ยังดูไม่ออกว่าจะจบลงแบบไหนแต่มีความรุนแรงแรงเพิ่มขึ้นและไม่แน่ว่า NATO จะเสี่ยงเข้าร่วม โดยอ้างว่ารัสเซียจะใช้อาวุธเคมีและชีวภาพ นอกเหนือจากการคว่ำบาตรขั้นรุนแรง อย่างไรก็ตาม อินเดีย จีน ซาอุฯ ดูเหมือนไม่ได้สนใจการกดดันจาก NATO และสหรัฐ


มาถึงนาทีนี้ยังดูไม่ออกว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะจบเมื่อไหร่ และจบแบบไหน แต่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การแบ่งฝักฝ่ายเริ่มชัดเจนขึ้น ไม่เพียงแต่จะเป็นสงครามการสู้รบบนภาคพื้นดิน ในน้ำ และน่านฟ้า แต่สงครามด้านเศรษฐกิจก็เข้มข้นไม่แพ้กัน นักธุรกิจระดับโลกถึงกับบ่นว่าสงครามรอบนี้อาจเป็นจุดสิ้นของโลกโลกาภิวัตน์ ที่ทุกฝ่ายอาจต้องลดการพึ่งพิงกันลงแล้ว เมื่อเกิดศึกสงคราม มันเชื่อมโยงกันจนเสียหายในวงกว้าง ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันนั้น นอกจากการสู้รบที่เข้มข้นแล้ว ด้านสงครามเศรษฐกิจก็หนักไม่แพ้กัน ตาต่อตา ฟันต่อฟันเลยทีเดียว!

รัสเซียเล็งรับบิตคอยน์-รูเบิล จ่ายค่าน้ำมัน-ก๊าซ หลังถูกคว่ำบาตรรุนแรง

รัสเซียกำลังพิจารณารับชำระเงินค่าน้ำมันและก๊าซเป็นบิตคอยน์ เนื่องจากเผชิญการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จากบรรดาประเทศตะวันตกจากกรณีที่เข้ารุกรานยูเครน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้เปิดเผยถ้อยแถลงของนายพาเวล ซาวัลนี ประธานคณะกรรมการด้านพลังงานของสภาผู้แทนราษฎรรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ว่า รัสเซียยินดีจะผ่อนปรนเกี่ยวกับทางเลือกในการชำระเงินค่าน้ำมันและก๊าซต่อมิตรประเทศ เช่น จีนหรือตุรกี

นายซาวัลนีกล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาใช้สกุลเงินของประเทศผู้ซื้อ รวมถึงบิตคอยน์ เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระค่าพลังงานของรัสเซีย

บิตคอยน์พุ่งเกือบ 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แตะที่ประมาณ 44,000 ดอลลาร์ ทันทีที่มีการรายงานข่าวความเห็นของนายซาวัลนีเรื่องการใช้บิตคอยน์ซื้อพลังงานรัสเซีย

นอกจากนี้ นายซาวัลนียังได้ย้ำคำกล่าวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเมื่อวันพุธ (23 มี.ค.) ว่า ประเทศที่ “ไม่เป็นมิตร” ต้องชำระค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล โดยคำประกาศของปธน.ปูตินส่งให้ราคาก๊าซในยุโรปพุ่งขึ้นจากความวิตกกังวลว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้วิกฤตพลังงานเผชิญแรงกดดันมากขึ้น

ก่อนหน้านี้รัสเชียประกาศรับการชำระค่าน้ำมันและก๊าซเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น สำหรับประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ซึ่งรายชื่อประเทศไม่เป็นมิตรในเอเชีย มี 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์ ส่งนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป 

เยอรมนีออกโรงปฏิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซียเป็นเงินรูเบิล

นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีปฏิเสธที่จะเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินรูเบิลในการชำระค่าก๊าซธรรมชาติให้กับรัสเซียตามที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียประกาศไว้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายโชลซ์แถลงเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากร่วมประชุมกับผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 ชาติ (G7) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

นายโชลซ์กล่าวว่า สกุลเงินในการชำระเงินค่าก๊าซนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่เกี่ยวข้อง โดยเขาแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่ปธน.ปูตินประกาศว่า รัสเซียจะยอมรับเฉพาะสกุลเงินรูเบิลเท่านั้นสำหรับการชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่ส่งมอบให้กับบรรดาประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย

นายโชลซ์ระบุว่า ปกติแล้วการชำระเงินค่าก๊าซมักจะอยู่ในรูปของสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ พร้อมเสริมว่า “ข้อตกลงและสนธิสัญญาส่วนใหญ่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสกุลเงินที่ใช้ในการชำระเงิน”

ทั้งนี้ ปธน.ปูตินกล่าวเมื่อวันพุธ (23 มี.ค.) ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐบาลผ่านวิดีโอลิงก์ว่า รัสเซียจะไม่ยอมรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือยูโร แต่จะยอมรับเฉพาะสกุลเงินรูเบิลสำหรับการชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่ส่งให้แก่ “บรรดาประเทศที่ไม่เป็นมิตร” ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐ

รูปีแลกรูเบิล อินเดียไม่สนใจ ค้าขายรัสเซียต่อ

A Sakthivel ประธานสภาผู้ส่งออกของอินเดีย หรือ FIEO ได้ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า อินเดียและรัสเซียอาจบรรลุข้อตกลงในการใช้เงินสกุลรูปีและรูเบิลชำระค่าสินค้าระหว่างกันโดยตรงภายในสัปดาห์หน้า โดยข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ส่งออกอินเดียยังสามารถทำการค้ากับรัสเซียได้ต่อไปท่ามกลางการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
 
Sakthivel ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลอินเดียกำลังอยู่ระหว่างหารือกับธนาคารกลาง กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินหลายแห่ง เพื่อเตรียมอนุญาตให้ธนาคารอินเดียราว 4-5 แห่งสามารถทำธุรกรรมการเงินกับรัสเซียผ่านข้อตกลงดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของอินเดียยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้
 
“ในช่วงที่ผ่านมาอินเดียยังมีการส่งออกไปรัสเซียไม่มากนัก สินค้าส่งออกหลักจะจำกัดอยู่ในกลุ่มเกษตรและยารักษาโรค การที่รัสเซียถูกชาติตะวันตกรุมคว่ำบาตรไม่ค้าขายด้วยถือเป็นโอกาสของบริษัทในอินเดียที่จะขยายเข้าไปทำตลาดแทนได้” Sakthivel กล่าว
 
อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลว่าการส่งสัญญาณเดินหน้าค้าขายกับรัสเซียต่อของอินเดียในครั้งนี้อาจทำให้กลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตกซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดียเกิดความไม่พอใจได้ โดยสถิติการค้าระหว่างประเทศของอินเดียแสดงให้เห็นว่าในปีที่ผ่านมาอินเดียมีการค้ากับสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.12 แสนล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นการส่งออก 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และการนำเข้า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ซาอุฯ หาช่องทางค้าน้ำมันกับจีนด้วยเงินสกุลหยวน ไม่สนดอลลาร์

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 วอลล์สตรีต เจอร์นัลรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังอยู่ระหว่างเจรจาหาลู่ทางในการใช้เงินสกุลหยวนในการชำระเงินการจัดซื้อพลังงานระหว่างซาอุดิอาระเบียกับจีน

วอลล์สตรีต เจอร์นัลอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลริยาดซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับจีนเรื่องสัญญาราคาหยวนเป็นเวลาหกปี ได้เร่งการเจรจาให้เร็วขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ไม่ชัดเจนว่าเพราะเหตุใด แต่เชื่อว่าอาจมาจากปัจจัยราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้นเนื่องจากวิกฤตสงครามยูเครนรัสเซีย

แม้ไม่ชัดเจนว่าการเจรจาดังกล่าวเป็นจริงแค่ไหน แต่นักวิเคราะห์จากทั้ง Nordea Investment Management และ Generali Insurance Asset Management เห็นตรงกันว่า จะไม่ถึงขั้นส่งผลกระทบให้ดอลลาร์กลายเป็นเงินสกุลรองของโลก แต่สิ่งที่ชัดเจนคือการส่งสัญญาณทางภูมิรัฐศาสตร์ของซาอุดีอาระเบียไปยังสหรัฐ

“ผมไม่รู้ว่ามันจะจริงมั้ย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความเคลื่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซาอุดีอาระเบียกำลังเดินตามแนวทางของตน และส่งเสียงไปถึงวอชิงตัน” Guillaume Tresca นักยุทธศาสตร์การตลาดของเจเนราลี่กล่าว

เงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินเริ่มต้นสำหรับการกำหนดราคาสัญญาพลังงานทั่วโลก การใช้เงินสกุลดอลลาร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลด้านภูมิรัฐศาสตร์ของวอชิงตัน ทว่าหลังเหตุการณ์คว่ำบาตรรัสเซียจากการถูกห้ามใช้เงินดอลลาร์ รวมถึงเงินทุนสำรองต่างประเทศของรัสเซียเกือบครึ่งถูกแช่แข็ง ทำให้หลายประเทศพิจารณาทบทวนถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อเงินดอลลาร์ดังกล่าว และหาลู่ทางไปใช้สกุลเงินอื่นในการทำธุรกรรมระหว่างกัน

ดังเช่นที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าอินเดียแสดงความสนใจซื้อปุ๋ย พลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซียในราคาถูก ด้วยวิธีช่องทางพิเศษระหว่างเงินรูเบิลกับรูปี หลังรัสเซียถูกนานาชาติคว่ำบาตร สวนทางกับอินเดียที่งดออกเสียงต่อกรณีดังกล่าวบนเวทีสหประชาชาติ

ความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐตึงเครียดตั้งแต่โจ ไบเดนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จากกรณีที่เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน ถูกกล่าวหาว่าบงการสังหารจามาล คาช็อกกีในปี 2018 คอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ที่วิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของเขา ขณะที่ล่าสุด ซาอุฯแสดงท่าทีนิ่งเฉยต่อการติดต่อจากทำเนียบขาวเพื่อขอนำเข้าพลังงานเพิ่มเติม หลังจากที่สหรัฐประกาศแบนพลังงานรัสเซีย

ผลประชุมนาโตล่าสุด “เพิ่มความช่วยเหลือยูเครน ส่งทหารไปยุโรปตะวันออก”

หลังการประชุมวานนี้ (24 มีนาคม) สมาชิกนาโต้มีมติเพิ่มความช่วยเหลือยูเครน โดยจะส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ และทหารไปประจำการยังยุโรปตะวันออกเพิ่มด้วย

บรรดาผู้นำชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เข้าหารือกันที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวานนี้ เพื่อหารือฉุกเฉินในประเด็นวิกฤตยูเครน โดยภายหลังการหารือ นายเยน สโตเลนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เปิดเผยผลการหารือว่า ทางนาโตเป็นกังวลว่ารัสเซียกำลังพยายามสร้างข้ออ้างในการกล่าวหายูเครน และชาติพันธมิตรว่ากำลังเตรียมการใช้อาวุธเคมี แต่นาโตยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ ผู้นำชาติสมาชิกที่มีมติให้เพิ่มความช่วยเหลือยูเครน เพื่อปกป้องตนเองจากภัยคุกคามด้านอาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ และนิวเคลียร์ รวมถึงตัดสินใจเพิ่มกำลังทหารในยุโรปตะวันออก ใน 4 ประเทศสมาชิก ประกอบไปด้วย ฮังการี สโลวาเกีย บัลแกเรีย และโรมาเนีย

ในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนยังได้วิดีโอคอลมาแถลง ณ ที่ประชุมด้วย โดยเขาเรียกร้องขอให้ผู้นำชาตินาโต เพิ่มความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครน เพื่อต่อสู้กับกองกำลังรัสเซีย และเตือนว่า เป้าหมายต่อไปของรัสเซียอาจจะเป็นพันธมิตรในยุโรปตะวันออกอย่างโปแลนด์ นอกจากนี้เขายังได้กล่าวขอบคุณชาตินาโตสำหรับความช่วยเหลือที่ให้มาโดยตลอดด้วย

การประชุมของนาโตครั้งนี้มีบรรดาผู้นำชาติยักษ์ใหญ่มากมายเข้าร่วม หนึ่งในนั้นคือประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาก็ระบุว่า ถ้าหากรัสเซียใช้อาวุธเคมีในการรุกรานยูเครนจริง สหรัฐจะทำการตอบโต้ทันที นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะล้มเหลวในการกันชาติตะวันตกออกจากสงครามของรัสเซียในยูเครน พร้อมย้ำด้วยว่า นาโตไม่เคยสามัคคีกันมากเท่าวันนี้มาก่อนเลย

“ปูตินมั่นใจมากในการทำให้นาโตแตกแยก การสนทนาก่อนหน้านี้ของผมกับเขาในเดือนธันวาคม และต้นเดือนมกราคม มันชัดเจนกับผมมากว่าเขาไม่ได้คิดว่า เราจะรักษาการทำงานร่วมกันนี้เอาไว้ได้ นาโตไม่เคย ไม่เคยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเท่าวันนี้มาก่อน ปูตินกำลังจะได้รับผลที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ เป็นผลลัพธ์จากการที่เข้าไปในยูเครน เราสร้างความสามัคคีแบบนี้เอาไว้กับสหภาพยุโรป และกลุ่มจี 7 ซึ่งเป็นชาติผู้นำด้านประชาธิปไตยด้วย” ไบเดน ระบุ

“ไบเดน,  G7 “ ลั่นตอบโต้แน่ หากรัสเซียใช้อาวุธเคมี-ชีวภาพโจมตียูเครน

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและกลุ่มนาโตจะตอบโต้ “อย่างสาสม” หากรัสเซียใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการโจมตียูเครน

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังแสดงท่าทีสนับสนุนให้ไล่รัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม G20 ด้วย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปธน.ไบเดนได้มีถ้อยแถลงดังกล่าว หลังจากที่ได้เดินสายประชุมกับสหภาพยุโรป, ชาติสมาชิกกลุ่ม G7 และพันธมิตรในกลุ่มนาโต

ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดนได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า สหรัฐมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าจีนได้ขายเทคโนโลยีของสหรัฐให้รัสเซียเพื่อช่วยรัสเซียซึ่งถูกคว่ำบาตรหรือไม่ โดยเขากล่าวเพียงแค่ว่า “ผมคิดว่าจีนเข้าใจว่าอนาคตของเศรษฐกิจจีนนั้นขึ้นอยู่กับชาติตะวันตกมากกว่ารัสเซีย” และหวังว่าจีนจะไม่เข้ามายุ่งในกรณีนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐและชาติพันธมิตรเตือนว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ ซึ่งในขณะนี้ ข้อมูลสภาพอากาศจากฝั่งตะวันตก รวมทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักร ยังคงส่งไปยังหน่วยงานของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงข้อมูลการวัดความเร็วและทิศทางลม แสงแดด ปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงเวลาจริง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญต่อการวางแผนโจมตีโดยใช้อาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมี

ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนก็เคยเตือนว่า คำกล่าวอ้างของรัสเซียที่ว่ายูเครนมีการพัฒนาอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในประเทศ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัสเซียกำลังพิจารณาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตียูเครน

ปธน.ไบเดนกล่าวในการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียนั้น “อยู่ในสภาพหลังชนฝา เขาจึงอ้างถึงข้อมูลเท็จใหม่ ๆ ที่เขาสร้างขึ้น รวมถึงเรื่องที่ว่าสหรัฐมีอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยุโรป ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย”

“นอกจากนี้รัสเซียยังอ้างว่ายูเครนเองก็มีอาวุธเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า ปธน.ปูตินกำลังพิจารณาใช้อาวุธเหล่านี้” ปธน.ไบเดนกล่าวเสริม

G7 ออกแถลงการณ์เตือนรัสเซียใช้อาวุธชีวภาพ-นิวเคลียร์ในยูเครน

หลังจากการประชุมร่วมกับนาโตเสร็จสิ้น บรรดาผู้นำชาติประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีไบเดน มุ่งหน้าต่อไปยังสภายุโรป เพื่อประชุมร่วมกับกลุ่มจี 7 และบรรดาผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในทันที

โดยหลังจากหารือกับกลุ่มจี 7 ทางกลุ่มได้ออกแถลงการณ์เตือนรัสเซียเกี่ยวกับการใช้อาวุธชีวภาพ อาวุธนิวเคลียร์ หรืออาวุธนิวเคลียร์ในสงครามยูเครน นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ชาติสมาชิกจี 7 ทั้งหมดยินดีต้อนรับผู้อพยพจากยูเครน

ส่วนในประเด็นด้านพลังงานนั้น ชาติจี 7 เรียกร้องให้บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแสดงความรับผิดชอบและเพิ่มกำลังการผลิตออกสู่ตลาดโลก โดยย้ำว่า กลุ่มโอเปกควรจะมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

ติดต่อโฆษณา!